Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/14092
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor | กองพล ฤทธิโชติ | - |
dc.contributor.advisor | ปิยะนุช ปรีชานนท์ | - |
dc.date.accessioned | 2021-05-17T08:52:25Z | - |
dc.date.available | 2021-05-17T08:52:25Z | - |
dc.date.issued | 2559 | - |
dc.identifier.uri | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/14092 | - |
dc.description | บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต(บริหารธุรกิจ),2559 | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ | en_US |
dc.subject | ความใส่ใจสุขภาพ | en_US |
dc.subject | การนวดแผนไทย | en_US |
dc.subject | ทัศนคติ | en_US |
dc.title | ความสัมพันธ์ของความใส่ใจสุขภาพกับทัศนคติของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่มีต่อบริการนวดแผนไทยในอำเภอเมือง จังหวัดสงขลา | en_US |
dc.title.alternative | The Relationship between Health Consciousness and Attitudes of Malaysian Tourists towards Thai Traditional Massage Services in Muang, Songkhla Province | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.contributor.department | Faculty of Management Sciences (Business Administration) | - |
dc.contributor.department | คณะวิทยาการจัดการ ภาควิชาบริหารธุรกิจ | - |
dc.description.abstract-th | งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาทัศนคติของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่มี ต่อบริการนวดแผนไทย ความใส่ใจสุขภาพของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย รวมถึงความสัมพันธ์ของ ความใส่ใจสุขภาพกับทัศนคติของนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่มีต่อบริการนวดแผนไทย โดยกาหนดกลุ่มตัวอย่างคือ นักท่องเที่ยวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในอาเภอเมือง จังหวัดสงขลาระหว่างเดือนธันวาคม 2558 ถึงเดือนมีนาคม 2559 จานวน 500 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบ T – Test และ F – Test (One Way Anova) และวิเคราะห์หาความสัมพันธ์โดยการใช้สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียรสัน ผลการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 53.8 อายุระหว่าง 40 – 49 ปี คิดเป็นร้อยละ 33.2 สถานภาพสมรสหรืออยู่ด้วยกัน คิดเป็นร้อยละ 71 การศึกษาระดับปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 76 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชนหรือห้างร้าน คิดเป็นร้อยละ 41.8 และมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนน้อยกว่า 5,000 ริงกิต คิดเป็น 25.4 เลือกใส่ใจสุขภาพ ของตนเองด้วยการออกกาลังกายอย่างสม่าเสมอ คิดเป็นร้อยละ 31.6 ตัดสินใจใช้บริการนวด แผนไทยจากปัจจัยทางด้านผู้นวด เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ในการรับบริการ ตัวแปรด้านความ ใส่ใจสุขภาพอยู่ในระดับใส่ใจสุขภาพมากที่สุด และตัวแปรด้านทัศนคติที่มีต่อบริการนวดแผนไทย อยู่ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่ง การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ พบว่า ความใส่ใจสุขภาพมีความสัมพันธ์กับทัศนคติโดยภาพรวมในทิศทางเดียวกันระดับสูงและมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 กล่าวคือ เมื่อนักท่องเที่ยวมาเลเซียมีความใส่ใจสุขภาพของตนเองมากขึ้น จะทาให้นักท่องเที่ยวมาเลเซีย มีทัศนคติต่อบริการนวดแผนไทยในเชิงบวกมากยิ่งขึ้นและจะส่งผลต่อพฤติกรรมในลาดับถัดไป ดังนั้น หากผู้ประกอบการต้องการประสบความสาเร็จในธุรกิจนวดแผนไทย จึงต้องให้ความสาคัญกับพนักงานนวด เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ให้มากขึ้น และควรเปิดช่องทางการประชาสัมพันธ์ให้มีความหลากหลาย เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มนักท่องเที่ยวมาเลเซียได้ทุกระดับ | en_US |
Appears in Collections: | 460 Minor Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
23.ความสัมพันธ์ของความใส่ใจสุขภาพกับทัศนคติของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย.pdf | 1.16 MB | Adobe PDF | View/Open | |
23.ความสัมพันธ์ของความใส่ใจสุขภาพกับทัศนคติของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย-บทความ.pdf | 315.29 kB | Adobe PDF | View/Open |
Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.