กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/18109
ชื่อเรื่อง: | ทัศนคติของเยาวชนมุสลิมและภาคประชาสังคมกับกรณีการแสดงออกในอัตลักษณ์มลายูของกลุ่มเยาวชนมุสลิมในพื้นที่พหุวัฒนธรรมสายบุรี จังหวัดปัตตานี |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Attitudes of Muslim Youth and Civil Society Organizations upon an Expression of Malayu Identity in the Multicultural Area of Saiburi, Pattani Province |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | บุษบง ชัยเจริญวัฒนะ ธนชาติ รักนุ้ย Faculty of Management Sciences (Public Administration) คณะวิทยาการจัดการ ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ |
คำสำคัญ: | เยาวชนมุสลิม;อัตลักษณ์;มลายู;พหุวัฒนธรรม |
วันที่เผยแพร่: | 2023 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
บทคัดย่อ: | The objectives of this study are 1) to study the attitudes in expressing Malayu identity among Muslim juveniles in Pattani Province; The Case of Expression in Malayu Identity of Muslim Youth in multicultural area at Saiburi, Pattani 2) to study the attitudes of civil society toward the identity expression of Malayu youth in Pattani; The Case of Expression in Malayu Identity of Muslim Youth in multicultural area at Pattani 3) to suggest the expression of Muslim youth's Malayu identity to various sectors to create understanding and promote coexistence in a multicultural society. The qualitative research method is applied in this study, using semi-structured interviews with selected criteria for interviewees based on juvenile and civil society participation in the event. The key informant is the event's participant, event’s leaders, researching documents and related research to synthesize, analyze, find results and provide suggestions. The research revealed that some participants in the activities received news by word of mouth from their seniors, friends, electronic media, and social media platforms. As for coordination with local people, we found that most of the youth thought the event was a Hari Raya celebration that gathers village people and district people to travel to an event’s venue. The purpose of the organizer is to promote the understanding of Malayu’s Identity to both younger participant’s and the government. The event was held at Wasukri Beach, Sai Buri District, Pattani Province because it was safe and convenient to obtain permission to facilitate an event. The identities that were expressed include authentic Malayu dress, Panchak Silat performance and the oath of allegiance. Those activities were aimed to value the Malayu culture and cherish the motherland among the younger generation that was born into Malayu and believe that youth is the hope of peace. Therefore, it is considered a peaceful way to explain the identity of Thai’s Malayu. This study provided policy proposal to help establish law and regulation that the governor must willing to support their lifestyle and Muslim identity including being truthful, continue resolve the problem or issue occurs, non-enforcement to apply monoculturalism, leader keeps resolving problem regularly and support activity for children and youth in the area |
Abstract(Thai): | การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาทัศนคติในการแสดงอัตลักษณ์มลายูของเยาวชนมุสลิมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี กรณีการแสดงออกในอัตลักษณ์มลายูของกลุ่มเยาวชนมุสลิมในพื้นที่ พหุวัฒนธรรมสายบุรี จังหวัดปัตตานี 2) เพื่อศึกษาทัศนคติของภาคประชาสังคมที่มีต่อการแสดงออกในอัตลักษณ์ของเยาวชนมลายูในพื้นที่จังหวัดปัตตานี กรณีการแสดงออกในอัตลักษณ์มลายูของ กลุ่มเยาวชนมุสลิมในพื้นที่พหุวัฒนธรรมสายบุรี จังหวัดปัตตานี 3) เพื่อเสนอแนะการแสดงออกใน อัตลักษณ์มลายูของกลุ่มเยาวชนมุสลิมต่อภาคส่วนต่าง ๆ ในการสร้างความเข้าใจและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในพื้นที่สังคมพหุวัฒนธรรม การศึกษานี้ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ มีการสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้ให้ข้อมูล เลือกจากเยาวชนและภาคประชาสังคมที่เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนั้น มีผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรม เยาวชนแกนนำในสถานศึกษา ภาคประชาสังคม และศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อ สังเคราะห์ วิเคราะห์ หาข้อสรุป และเสนอแนะ ผลการวิจัย พบว่าเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมส่วนหนึ่งรับรู้ข่าวสารจากการบอกต่อ จากการชักชวนของรุ่นพี่ เพื่อน ๆ จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และแอพพลิเคชั่นต่างๆ มีการประสานงานไปยังคนที่รู้จักในพื้นที่ พบว่า เยาวชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเป็นการเฉลิมฉลองในเทศการอารีรายอ โดยมีการรวมตัวในหมู่บ้านและอำเภอแล้วเคลื่อนตัวไปยังสถานที่จัดงาน ผู้จัดงานต้องการให้ผู้เข้าร่วมเข้าใจอัตลักษณ์ของตนเองและต้องการให้ภาครัฐเข้าใจในอัตลักษณ์มลายู เหตุที่จัดที่หาดวาสุกรี อำเภอสายบุรี เพราะมีความปลอดภัย ได้รับอนุญาตจากผู้นำในท้องถิ่น อัตลักษณ์ที่ต้องการให้แสดงออก การแต่งกายชุดมลายูที่ถูกต้อง มีการแสดงปันจักสีลัต และการกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณ ทั้งนี้เพื่อต้องการให้เยาวชนรักและหวงแหนในแผ่นดินเกิด ถือกำเนิดในความเป็นมลายู และเชื่อว่าเยาวชนคือความหวังของสันติภาพที่ต้องการอธิบายความเป็นตัวตนคนไทยเชื้อสายมลายู การศึกษานี้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายและการออกกฎหมายนั้น ภาครัฐจะต้องเอื้อต่อวิถีชีวิต และอัตลักษณ์ความเป็นมลายูมุสลิม รวมทั้งควรต้องจริงใจและแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง ไม่บังคับใช้วัฒนธรรมเชิงเดียว มีความต่อเนื่องของผู้นำในการแก้ปัญหา รวมถึงการส่งเสริมกิจกรรมให้เด็กและเยาวชน ในพื้นที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมให้มากยิ่งขั้น |
รายละเอียด: | รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), 2566 |
URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/18109 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | 465 Minor Thesis |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
MPA-6410521516.pdf | 1.82 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด | |
บทความวิจัย ธนชาติ รักนุ้ย.pdf | 547.5 kB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License