กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17478
ชื่อเรื่อง: ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ กรณีศึกษา เทศบาลนครหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Transformational Leadership Affecting to Results-Based Management, The Case Study of Hat Yai city Municipality, Hat Yai District, Songkhla Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ประทุมทิพย์ ทองเจริญ
สิริพัชร งามไตรไร
Faculty of Management Sciences (Public Administration)
คณะวิทยาการจัดการ ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์
คำสำคัญ: ภาวะผู้นำ;การบริหารงาน
วันที่เผยแพร่: 2022
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บทคัดย่อ: The objectives of this study were 1) to study the level of transformational leadership of the Mayor of Hat Yai City Municipality, 2) to study the level of result-based management of the Mayor of Hat Yai City Municipality and 3) to study the effects of transformational leadership on result-based management of the Mayor of Hat Yai City Municipality. This study is a qualitative research. The questionnaire was used as a research instrument in collecting data from 341 employees of Hat Yai City Municipality, Hat Yai District, Songkhla Province. The statistics used in data analysis were frequency, percentage, mean, standard deviation and stepwise multiple regression analysis. The results showed that 1) all 4 components of transformational leadership, which are idealized influence (X̅ = 4.18), inspirational motivation (X̅ = 4.15), intellectual stimulation (X̅ = 4.12) and individual consideration (X̅ = 4.13) were at a high level; 2) the result-based management (X̅ = 4.08) was also at a high level and 3) the effects of all 4 components transformational leadership on result-based management, in descending order, were as follows: intellectual stimulation (B = 0.320), individual consideration (B = 0.235), idealized influence (B = 0.205) and inspirational motivation (B = 0.137), respectively, at a statistical significance level of 0.05. According to the findings, the mayor should build confidence in solving problems and the subordinates should be encouraged to learn a joint problem-solving approach to lead to effective management in the future.
Abstract(Thai): งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ 2) เพื่อศึกษาระดับการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ของนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และ 3) เพื่อศึกษาภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ของนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ โดยการวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร คือ พนักงานสังกัดเทศบาลนครหาดใหญ่ จำนวน 2,302 คน ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 341 คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการวิจัย พบว่า 1) ระดับภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย ด้านการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ (X̅ = 4.18) ด้านการสร้างแรงบันดาลใจ (X̅ = 4.15) ด้านการกระตุ้นทางปัญญา (X̅ = 4.12) และด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล (X̅ = 4.13)อยู่ในระดับมาก 2) ระดับการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (X̅ = 4.08) อยู่ในระดับมาก 3) ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อด้านการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ของนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่มี 4 ด้าน เรียงตามลำดับด้านที่ส่งผลมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด คือ ด้านการกระตุ้นทางปัญญา (B = 0.320) ด้านการคำนึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล (B = 0.235) ด้านการมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์ (B = 0.205) และด้านการสร้างแรงบันดาลใจ (B = 0.137) ตามลำดับ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จากข้อค้นพบของงานวิจัย พบว่า นายกเทศมนตรีควรสร้างความเชื่อมั่นในการแก้ไขปัญหา และควรส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเรียนรู้วิธีการแก้ไขปัญหาร่วมกันเพื่อนำไปสู่การบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ที่ดีขององค์กรในอนาคต
รายละเอียด: รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐประศาสนศาสตร์), 2565
URI: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17478
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:465 Minor Thesis

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
6310521542..pdf1.17 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น