Please use this identifier to cite or link to this item: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17702
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.authorวิษณุพงษ์ โพธิพิรุฬห์-
dc.contributor.authorอังศุธร ศรีสุทธิสอาด-
dc.contributor.authorศิริรักษ์ สิงหเสม-
dc.contributor.authorปริญ นิทัศน์เอก-
dc.date.accessioned2022-12-19T03:41:43Z-
dc.date.available2022-12-19T03:41:43Z-
dc.date.issued2561-
dc.identifier.urihttp://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17702-
dc.identifier.urihttps://tnrr.nriis.go.th/#/services/research-report/detail/296839-
dc.description.abstractCorruption has become much more subtle and difficult to detect. Among the various approaches that have been used by different countries, whistleblowing has been shown to be an effective strategy for tackling corruption. Based on a review of the current practices of six different countries, we learned that their key success factors include a strong political will to fight corruption, an effective and integrated legal framework, strict enforcement of the laws and the strength of civil society organizations (CSOs). As for Thailand, whistleblowing is protected under two anti-corruption acts: The NACC’s Anti-Corruption Act and the PACC’s Anti-Corruption Act. These laws focus primarily on protecting the physical safety of whistleblowers but fall short of ensuring protection against reprisals and unfair practices, which generally occur in the workplace. Furthermore, protection against unfair treatment only applies to government officials and it does not clearly define what ‘unfair treatment’ actually means. The fundamental rights of whistleblowers are also often violated because heads of government agencies are not obligated to comply with the protection measures put forth by the NACC and PACC. Moreover, the current investigation process (e.g., how incoming cases are handled and processed) is still inefficient, impeding the NACC and PACC from being able to process corruption cases in due time. There is currently no clear and concrete mechanism for ensuring that the public is empowered and that their right is protected. It is thus unfortunate that the recently proposed law which aimed to promoteen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์en_US
dc.subjectการทุจริตและประพฤติมิชอบen_US
dc.subjectการทุจริตและประพฤติมิชอบ ไทย (ภาคใต้)en_US
dc.subjectการแจ้งเบาะแส-
dc.titleการเสริมสร้างประสิทธิผลของระบบการให้เบาะแสในประเทศไทยและการส่งเสริมความร่วมมือในระดับพื้นที่ภาคใต้เพื่อป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐen_US
dc.title.alternativeEnhancing the Effectiveness of the Whistleblowing System in Thailand and Promoting Area-Based Collaboration (ABC) in Fighting and Preventing Corruption in the Southern Region of Thailanden_US
dc.title.alternativeรายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการเสริมสร้างประสิทธิผลของระบบการให้เบาะแส ในประเทศไทยและการส่งเสริมความร่วมมือในระดับพื้นที่ภาคใต้ เพื่อป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐen_US
dc.typeTechnical Reporten_US
dc.contributor.departmentFaculty of Management Sciences (Public Administration)-
dc.contributor.departmentคณะวิทยาการจัดการ ภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์-
dc.description.abstract-thในปัจจุบันการทุจริตคอร์รัปชันมีความซับซ้อนแยบยลมากยิ่งขึ้นและเป็นการยากที่จะตรวจสอบจากหลากหลายมาตรการที่นานาประเทศได้นำมาใช้ในการปราบปรามการทุจริต พบว่าการแจ้งเบาะแสหรือ "Whistleblowing" เป็นกลไกสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยต่อต้านการทุจริตได้อย่างมีประสิทธิผล จากการศึกษามาตรฐานขององค์กรระหว่างประเทศและประเทศต้นแบบจำนวน 6 ประเทศ พบว่า ปัจจัยแห่งความสำเร็จที่สำคัญของประเทศเหล่านี้ คือ เจตจำนงที่ชัดเจนในการต่อต้านการทุจริต การวางมาตรการทางกฎหมายและกลไกการทำงานที่มีประสิทธิภาพแบบบูรณาการ การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและบทบาทที่แข็งแกร่งของภาคประชาสังคมสำหรับประเทศไทยพบว่ากฎหมายยังมีลักษณะแยกส่วนตามหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยบทบัญญัติการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริตถูกสอดแทรกอยู่ใน พ.ร.บ.หลักของแค่ละหน่วยงานได้แก่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) และ พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ท.) โดยกฎหมายเน้นให้ความคุ้มครองด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้แจ้งเบาะแส ส่วนการ คุ้มครองด้านความปลอดภัยในการถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมโดยนายจ้างพบว่ายังขาดความชัดเจน หลายเรื่องยังไม่สามารถปฏิบัติได้จริง และเป็นมาตรการที่ครอบคลุมเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐเท่านั้นซึ่งถือเป็นช่องโหว่ทางกฎหมาย รวมทั้ง กระบวนการรับเรื่องกล่าวหาร้องเรียน การไต่สวนและการส่งเรื่อง ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงขาดประสิทธิภาพทำให้มีเรื่องดั่งด้างอยู่ที่สำนักงาน ป.ป.ช และ ป.ป.ท. เป็นจำนวนมาก ในส่วนของการมีส่วนร่วมของภาดประชาชนและกลไกการเฝ้าระวังทุจริตในระดับพื้นที่นั้น ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการและกลไกที่เป็นรูปธรรมในการให้ความคุ้มครองและให้อำนาจในการตรวจสอบกับประชาชนทั่วไป จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่ร่าง พ.ร.บ.การส่งเสริมและคุ้มครองประชาชนในการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. ...(ป.ป.ท.) ถูกสำนักงานกฤษฎีกาตีความให้ตกไปโดยระบุเหตุผลความซ้ำซ้อนกับร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. ของ ป.ป.ช. ซึ่งถือเป็นการตัดโอกาสที่จะทำให้ประเทศไทยมีการอนุวัติการให้เป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต (UNCAC) ค.ศ. 2003 ประเทศไทยยังคงต้องอาศัยกลไกทางเลือก ได้แก่ สื่อมวลชนและองค์กรประชาชนอิสระที่เข้มแข็งในการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ จนกว่ากฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้องจะได้รับการแก้ไขปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้นen_US
Appears in Collections:465 Research

Files in This Item:
There are no files associated with this item.


Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.