Please use this identifier to cite or link to this item: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17633
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorมัทนชัย สุทธิพันธุ์-
dc.contributor.authorปิยะณัฐ กาญจนารัตน์-
dc.date.accessioned2022-11-10T09:49:55Z-
dc.date.available2022-11-10T09:49:55Z-
dc.date.issued2021-
dc.identifier.urihttp://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17633-
dc.descriptionบัญชีมหาบัณฑิต (การบัญชี), 2564en_US
dc.description.abstractThis study aims to examines the relationship between financial ratios, cash flows and firm value of listed companies at capital markets: a case study of the Indonesia - Malaysia - Thailand growth triangle project development (IMT-GT). Using 99 companies, samples were 40 listed companies in Indonesia, 22 listed companies in Malaysia and 33 listed companies in Thailand. Data collection of financial ratios and cash flows in corporate annual report during 2015 to 2019, while firm value was collected by market price. The study found the positive relationship of net profit margin, return on equity, earning per share on firm value and found the negative relationship of current ratio, debt per equity, return on asset, cash flow from investing activities, cash flow from financing activities on firm value, while there were not relationship of fixed asset turnover, debt ratio, dividend payout ratio, cash flow from operating activities on firm value. In case of a separate country, the result of Indonesia found the positive relationship of earnings per share on firm value. Malaysia found the positive of return on equity and earnings per share on firm value, while there were negative relationship of debt to asset ratio and return on asset on firm value. Thailand found the positive relationship of return on equity and profit margin on firm value, while there were negative relationship of cash flows from investing and cash flow from financing activities on firm value.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์en_US
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Thailand*
dc.rights.urihttp://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/3.0/th/*
dc.subjectอัตราส่วนทางการเงินen_US
dc.subjectกระแสเงินสดen_US
dc.subjectมูลค่ากิจการen_US
dc.subjectบริษัทมหาชน ไทยen_US
dc.subjectบริษัทมหาชน อินโดนีเซียen_US
dc.subjectบริษัทมหาชน มาเลเซียen_US
dc.titleความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงิน กระแสเงินสด และมูลค่ากิจการของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ : กรณีศึกษาประเทศในกลุ่มโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทยen_US
dc.title.alternativeThe Relationship between Financial Ratios, Cash Flows and Firm Value of Listed Companies at Capital Markets : A case study of The Indonesia - Malaysia - Thailand Growth Triangle Project Development (IMT-GT)en_US
dc.typeThesisen_US
dc.contributor.departmentคณะวิทยาการจัดการ ภาควิชาการบัญชี-
dc.contributor.departmentFaculty of Management Sciences (Accountancy)-
dc.description.abstract-thการศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงิน กระแสเงินสด และมูลค่ากิจการของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย จำนวน 99 บริษัท โดยกลุ่มตัวอย่างมาจากตลาดหลักทรัพย์ประเทศอินโดนีเซียจำนวน 40 บริษัท ตลาดหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซียจำนวน 26 บริษัท และตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทยจำนวน 33 บริษัท การศึกษาใช้วิธีการเก็บข้อมูลอัตราส่วนทางการเงินและกระแสเงินสดจากรายงานประจำปีของบริษัท ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ถึง พ.ศ. 2562 และมูลค่ากิจการเก็บโดยราคาหุ้น ผลการศึกษาความสัมพันธ์ทั้ง 3 ประเทศพบว่า อัตรากำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตรากำไรต่อหุ้นมีความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนอัตราสินทรัพย์หมุนเวียน อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน และกระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงินมีความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการในเชิงลบ ขณะที่ อัตราหมุนเวียนของสินทรัพย์ถาวร อัตราหนี้สินต่อสินทรัพย์ อัตราการจ่ายเงินปันผล และกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานไม่มีความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการ และผลการศึกษาแบบแยกประเทศ อินโดนีเซียพบว่า อัตรากำไรต่อหุ้นมีความสัมพันธ์กับมูลกิจการในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ มาเลเซียพบว่า อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตรากำไรต่อหุ้นมีความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนอัตราหนี้สินต่อสินทรัพย์และอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์พบความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการในเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญ และไทยพบว่า อัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตรากำไรมีความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนและจัดหาเงินพบความสัมพันธ์กับมูลค่ากิจการในเชิงลบอย่างมีนัยสำคัญen_US
Appears in Collections:464 Thesis

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6210521706.pdf2.02 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons