Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15208
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.author | วิมล, สิงหะพล | - |
dc.contributor.author | อานนท์, คงนุ่ม | - |
dc.contributor.author | สัมฤทธิ์, ฤทธิ์ชู | - |
dc.date.accessioned | 2015-10-09T03:27:19Z | - |
dc.date.accessioned | 2021-05-17T11:22:11Z | - |
dc.date.available | 2015-10-09T03:27:19Z | - |
dc.date.available | 2021-05-17T11:22:11Z | - |
dc.date.issued | 2557 | - |
dc.identifier.uri | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/15208 | - |
dc.description.abstract | ประเทศไทยมีพื้นที่ถือครองทางการเกษตรเฉพาะที่นา ที่พืชไร่ ที่ไม้ผลและไม้ยืนต้น ที่สวนผักไม้ดอก ประมาณ ๑๔๙ ล้านไร่ มีพื้นที่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในแต่ละปีแต่สถิติการใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรกับมีปริมาณสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการนำเข้าปุ๋ยและสารเคมีกับผลผลิตต่อไร่ของสินค้าเกษตรที่สำคัญและมีเนื้อที่เพาะปลูกมาก ๔ อันดับแรก คือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ พบว่า พืชส่วนใหญ่มีผลผลิตต่อไร่เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยโดยข้าวมีการเปลี่ยนแปลงน้อยที่สุด ในปี ๒๕๕๕ มีการนำเข้าสารเคมีทางการเกษตร ๑๓๔,๓๗๗ ตัน มีมูลค่า ๑๙,๓๕๗ ล้านบาท เป็นสารกำจัดวัชพืชมากที่สุด มีผลทำให้อุตสาหกรรมเคมีทางการเกษตรเติบโตอย่างมากเกษตรกรเข้าถึงสารเคมีได้ง่ายและมีการใช้มากเกินความพอดี (สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, ๒๕๕๖) ข้อมูลสำนักควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ปี ๒๕๕๔ จากการตรวจเลือดเกษตรกร ๕๓๓,๕๒๔ คน ใน ๗๔ จังหวัด พบว่า อยู่ในระดับเสี่ยงและไม่ปลอดภัยร้อยละ ๓๒ และสรุปรายงานการเฝ้าระวังโรคจากสำนักระบาดวิทยา มีผู้ป่วยได้รับพิษจากสารเคมีป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๕ - ๒๕๕๔ เฉลี่ยปีละ ๑,๘๔๐ ราย และ ปี ๒๕๕๔ มีผู้ป่วยได้รับพิษจากสารป้องกันกำจัดศัตรูพืชจากการทำงานและสิ่งแวดล้อม (ไม่รวมสาเหตุการฆ่าตัวตาย) จำนวน ๒,๐๔๖ ราย มีผู้เสียชีวิต ๒ ราย ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาชีพทำเกษตรกรรมร้อยละ ๔๑.๐๖ ซึ่งการใช้สารเคมีทางการเกษตรนอกจากเป็นต้นทุนทางการเกษตรแล้วยังมีต้นทุนด้านสาธารณสุขที่ตามมา ภายหลังรัฐบาลต้องใช้งบประมาณในการดูแลจัดการผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งด้านสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสูญเสียภาษีที่ควรจะได้รับจากการเติบโตของอุตสาหกรรมสารเคมีเกษตรนี้อีกด้วย แม้ว่าประเทศไทยที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าทางการเกษตรและอาหารเป็นอันดับต้นของโลกอาจไม่ประสบปัญหาความมั่นคงทางอาหาร แต่มีความเสี่ยงกับความปลอดภัยของอาหารและความมั่นคงของภาคการเกษตรอันเป็นผลมาจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมีทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของเกษตรกร รวมกับปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นล้วนแต่เป็นภาพเชิงลบของภาคการเกษตรที่เป็นปัจจัยทำให้เกษตรกรรุ่นใหม่และแรงงานภาคการเกษตรมีแนวโน้มลดลง กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อความปลอดภัยของเกษตรกรและประชาชนชาวไทยผู้บริโภคผลผลิตทางการเกษตรในชีวิตประจำวัน และยกระดับมาตรฐานสินค้าไทยให้สู่มาตรฐาน ด้านความปลอดภัยจากสารเคมีทางการเกษตรควรจัดทำโครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐาน ด้านความปลอดภัยจากสารเคมี | th_TH |
dc.language.iso | th_TH | th_TH |
dc.publisher | สำนักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง กรมส่งเสริมการเกษตร | th_TH |
dc.subject | ความไม่มั่นคงทางอาหาร | th_TH |
dc.title | โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557 | th_TH |
dc.type | Other | th_TH |
Appears in Collections: | 993 ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
โครงการ พัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานด้านความปลอดภัยจากสารเคมี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดพัทลุง ปี 2557.doc | 117 kB | Microsoft Word | View/Open |
Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.