Please use this identifier to cite or link to this item: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17850
Title: Techno-Economic Analysis of Wind Energy Potential in North-Eastern of Thailand
Other Titles: การวิเคราะห์เชิงเทคนิคและเศรษฐศาสตร์ของพลังงานลมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย
Authors: Juntakan Taweekun
Somchai Saeung
Natthapat Pawintanathon
คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาเทคโนโลยีพลังงาน
Faculty of Engineering (Energy Technology)
Keywords: Techno-Economic Analysis of Wind Energy Potential in North-Eastern of Thailand;Wind turbines;Wind power Thailand, Northeastern
Issue Date: 2021
Publisher: Prince of Songkla University
Abstract: Thailand's alternative power development plan attempts to reduce the dependence of electrical power generation on fossil fuels by setting a goal of generating electricity from wind energy resources of 3,002MW within year 2,036. Moreover, the shortage of electricity in the North-eastern region of Thailand needs to be cared for to create stability of energy in Thailand. Therefore, the assessment of wind power resource potential in the north-eastern part of Thailand needs to be studied. This paper presents a technical and economic analysis of the wind power potential for five stations in the north-eastern part of Thailand: Buriram, Roi Et, Sri Sa Ket, Surin, and Ubon Ratchathani within 4 years (2017-2020) at a 10-minute interval. The data was collected from Thai Meteorological Department (TMD) at a 10m height above ground level. This paper focuses on the wind climate at 60m and 80m above ground level by using WAsP to simulate the mean wind speed and power density of each station. Moreover, this study uses Vestas V52-850kW and Vestas V90-2,000kW wind turbine generators to calculate the net annual energy production of each station. In addition to evaluating the economic analysis of investment, this study uses economic tools to evaluate the feasibility of investment. The result showed that Roi Et is the most suitable location for a wind farm. The mean wind speeds and power densities are 5.95 m/s and 265 W/m2 at 60m and 6.15 m/s and 311 W/m2 at 80m. The AEP can be generated at 18.932 GWh and 56.322 GWh at 60m and 80m heights respectively for Roi Et with a cost per unit of 0.09 $/kWh and 0.07 $/kWh. The other provinces have an AEP of 10.674 GWh for Buriram, 12.152 GWh for Sri Sa Ket, 12.969 GWh for Surin, and 8.508 GWh for Ubon Ratchathani at 60m height level, with a cost per unit of 0.15 $/kWh, 0.14 $/kWh, 0.13 $/kWh, and 0.2 $/kWh respectively. At 80m height, the AEP is 33.437 GWh with 0.11 $/kWh for Buriram, 45.737 GWh with 0.09 $/kWh for Sri Sa Kat, 41.189 GWh with 0.09 $/kWh for Surin, and 27.524 GWh with 0.14 $/kWh for Ubon Ratchathani.
Abstract(Thai): แผนพัฒนาพลังงานทางเลือกของประเทศไทยพยายามลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยตั้งเป้าหมายการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม 3,002 เมกะวัตต์ ภายในปี 2579 นอกจากนี้ปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยยังต้องให้ความสำคัญเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านพลังงานของประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องศึกษาการประเมินศักยภาพทรัพยากรพลังงานลมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย บทความนี้นำเสนอการวิเคราะห์ทางเทคนิคและเศรษฐกิจของศักยภาพพลังงานลมของ 5 สถานีในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ได้แก่ บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ สุรินทร์ และอุบลราชธานี ภายใน 4 ปี (พ.ศ. 2560-2563) ทุกๆ 10 นาที ซึ่งเก็บข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาไทย (สพฐ.) ที่ระดับความสูง 10 เมตรจากระดับพื้นดิน บทความนี้เน้นที่สภาพอากาศของลมที่ความสูง 60 เมตรและ 80 เมตรเหนือระดับพื้นดินโดยใช้ WAsP เพื่อจำลองความเร็วลมเฉลี่ยและความหนาแน่นของพลังงานของแต่ละสถานี นอกจากนี้ การศึกษานี้ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันลม Vestas V52-850 kW และ Vestas V90-2,000 kW เพื่อคำนวณการผลิตพลังงานสุทธิประจำปีของแต่ละสถานี นอกจากนั้นการศึกษานี้ยังใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจเพื่อประเมินความเป็นไปได้ของการลงทุนอีกด้วย ผลการศึกษาพบว่า จังหวัดร้อยเอ็ดเป็นทำเลที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างกังหันลม มีความเร็วลมเฉลี่ยและความหนาแน่นของพลังงานเท่ากับ 5.95 เมตรต่อวินาที และ 265 วัตต์ต่อตารางเมตร ที่ความสูง 60 เมตร อีกทั้งที่ความสูง 80 เมตร มีความเร็วลมเฉลี่ยและความหนาแน่นของพลังงานเท่ากับ 6.15 เมตรต่อวินาที และ 311 วัตต์ต่อตารางเมตร ดังนั้น การผลิตพลังงานทั้งปีสามารถสร้างได้ที่ 18.932 กิกะวัตต์ชั่วโมง และ 56.322 กิกะวัตต์ชั่วโมง ที่ความสูง 60 เมตร และ 80 เมตร ตามลำดับ โดยมีราคาการผลิตไฟฟ้าต่อหน่วยที่ 0.09 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 0.07 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมง โดยจังหวัดอื่นๆ มีการผลิตพลังงานทั้งปีที่ 10.674 กิกะวัตต์ชั่วโมง สำหรับจังหวัดบุรีรัมย์ 12.152 กิกะวัตต์ชั่วโมง สำหรับจังหวัดศรีสะเกษ 12.969 กิกะวัตต์ชั่วโมง สำหรับจังหวัดสุรินทร์ และ 8.508 กิกะวัตต์ชั่วโมง สำหรับจังหวัดอุบลราชธานีที่ระดับความสูง 60m โดยมีราคาต่อหน่วย 0.15 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมง, 0.14 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมง, 0.13 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 0.2 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมง ตามลำดับ อีกทั้งที่ความสูง 80 เมตร การผลิตพลังงานทั้งปีสามารถสร้างได้ที่ 33.437 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยมีต้นทุนต่อหน่วยที่ 0.11 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมงสำหรับจังหวัดบุรีรัมย์, 45.737 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยมีต้นทุนต่อหน่วยที่ 0.09 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมงสำหรับจังหวัดศรีสะเกษ, 41.189 กิกะวัตต์ชั่วโมง โดยมีต้นทุนต่อหน่วยที่ 0.09 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมงสำหรับจังหวัดสุรินทร์ และ 27.524 กิกะวัตต์ชั่วโมง ด้วยต้นทุนต่อหน่วย 0.14 ดอลลาร์/กิโลวัตต์ชั่วโมงสำหรับจังหวัดอุบลราชธานี จากการศึกษาการวิเคราะห์โดยใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์พบว่ามีเพียงแค่จังหวัดอุบลราชธานีที่ความสูง 60 เมตรจากระดับพื้นดิน มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้าไม่คุ้มค่าสำหรับการลงทุนไม่พิจารณาจากการใช้เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์ โดยพบว่ามูลค่าสุทธิปัจจุบัน (NPV) และ ค่าอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) มีค่าติดลบ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมในการลงทุน อีกทั้งค่าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อต้นทุน (B/C ratio) มีค่า 0.978 ซึ่งมีค่าน้อยกว่า 1 สะท้อนให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมในการลงทุนของโครงการ
Description: Thesis (M.Eng., Energy Technology)--Prince of Songkla University, 2021
URI: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17850
Appears in Collections:219 Thesis

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
6310120038.pdf5.94 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons