กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17289
ชื่อเรื่อง: | ผลของการใช้โปรแกรมการให้การปรึกษาแบบกลุ่มโดยใช้แนวคิด พฤติกรรมนิยมเพื่อลดพฤติกรรมก้าวร้าวของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Effects of Group Counseling Program based on Behaviorism on Reducing Aggressive Behavior of Sixth Grade Students |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | อริยา คูหา อุสมาน สะอิด Faculty of Education (Psychology and Counseling) คณะศึกษาศาสตร์ ภาควิชาจิตวิทยาและการแนะแนว |
คำสำคัญ: | การจัดการเรียนรู้;พฤติกรรมก้าวร้าว |
วันที่เผยแพร่: | 2562 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี |
บทคัดย่อ: | การวิจัยเชิงทดลองครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมก้าวร้าวของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการให้การปรึกษาแบบกลุ่มโดยใช้แนวคิด พฤติกรรมนิยมของกลุ่มทดลอง 2) เพื่อศึกษาระดับพัฒนาการสัมพัทธ์ของนักเรียนกลุ่มทดลองก่อน และหลังการใช้โปรแกรมการให้การปรึกษาแบบกลุ่มโดยใช้แนวคิดพฤติกรรมนิยม 3) เพื่อ เปรียบเทียบพฤติกรรมก้าวร้าวของนักเรียนชั้นประถมศึกษาบีที่ 6 หลังการใช้โปรแกรมการให้การ ปรึกษาแบบกลุ่มโดยใช้แนวคิดพฤติกรรมนิยมระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างใน การวิจัยครั้งนี้ มีจำนวน 30 คน แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมกลุ่มละ 15 คน กลุ่มทดลอง ได้รับการให้การปรึกษาแบบกลุ่มโดยใช้แนวคิดพฤติกรรมนิยม และกลุ่มควบคุมเข้ารับการเรียนวิชา เพิ่มเติมในวิชาหน้าที่พลเมือง กิจกรรมลูกเสือและกิจกรรมชุมนุม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) แบบวัดพฤติกรรมก้าวร้าวที่มีค่าความเชื่อมั่น 0.97 (2) โปรแกรมการให้การปรึกษากลุ่มโดยใช้แนวคิด พฤติกรรมนิยมเพื่อลดพฤติกรรมก้าวร้าว จำนวน 10 ครั้งๆ ละ 60 นาที วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน คะแนนพัฒนาการสัมพัทธ์และการทดสอบของวิลคอกซัน (Wilcoxon's Matched Pairs Signed - Rank Test) ผลการวิจัย พบว่า 1. นักเรียนที่ได้รับโปรแกรมการให้การปรึกษาแบบกลุ่มโดยใช้แนวคิดพฤติกรรมนิยมหลัง การทดลองมีพฤติกรรมก้าวร้าวลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. ระดับพัฒนาการสัมพัทธ์ของนักเรียนกลุ่มทดลองก่อนและหลังการใช้โปรแกรมการให้การ ปรึกษาแบบกลุ่มโดยใช้แนวคิดพฤติกรรมนิยมมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 30.10 ระดับกลาง 3. ผลการเปรียบเทียบพฤติกรรมก้าวร้าวระหว่างกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม พบว่า กลุ่ม ทดลองมีพฤติกรรมก้าวร้าวลดลงสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 |
Abstract(Thai): | The objectives of this experimental research were 1) To compare aggressive behavior of sixth grade students between before and after treatment of group counseling program based on behaviorism of experimental group 2) To determine the relative gain score of students in the experimental group before and after using group counseling program based on behaviorism 3) To compare aggressive behavior of the sixth grade students after treated with group counseling program based on behaviorism between experimental group and control group. 30 samples were divided into 2 group, 15 each e.i experimental and control group. Experimental group were treated by behaviorism program with 10 sessions of 60 minutes each and the control group received courses in citizenship boy scout activities. The study Instruments were 1) aggressive behavior scale with the reliability of 0.97. 2) Program of counseling to reduce aggressive behavior 10 time and 60 minutes each. Statistically analysis used SD, relative gain score and test of Wilcoxon s Matched Pairs Signed - Rank Test. The results revealed that students who were treated by group counselling program based on behaviorism showed the reduce of aggressive behavior with significantly at level of .01. The relative developmental level of experimental group students before and after using the group counseling program using behavioral concepts had an average increase of 30.10 percent at the mid level. The comparisons of aggressive behavior between the experimental group and the control group showed the reduced aggressive behavior at the significant level of 01. |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.(วิชาจิตวิทยา))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2562 |
URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17289 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | 286 Thesis |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
TC1631.pdf | 2.2 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น