Please use this identifier to cite or link to this item: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/19587
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorสมปอง เตชะโต-
dc.contributor.authorปรมาภรณ์ น้อยมุสิก-
dc.date.accessioned2024-07-25T08:49:41Z-
dc.date.available2024-07-25T08:49:41Z-
dc.date.issued2019-
dc.identifier.urihttp://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/19587-
dc.descriptionวิทยาศาตรมหาบัณฑิต (สัตวศาสตร์), 2019en_US
dc.description.abstractTo study the effects of PGRS, amino acid, various explant types of seeds and leaves on seed germination, callus formation, plant regeneration and acclimatization of Sang Yod Muang Phatthalung rice. Mature seeds were culture on PGRs-free oil palm culture medium (OPCM) or OPCM medium with different concentrations of 2,4-dichlorophenoxyacetic acid (2,4-D) or 3,6- dichloro-2-methoxybenzoic-acid (dicamba). The results showed that mature seeds comprised of endosperm and embryo cultured on OPCM medium with 4 mg/L 2,4-D for 7 days gave the best results in seed germination at 84.00-96.00 percent, mean germination time (MGT) at 4.59-4.72 days and after culture for 30 days the most callus induction rate at 88.00-90.00 percent and average size of callus at 24.65-28.80 mm2 were obtained significant different (p<0.01) with the other treatments. The characteristics of callus were pale yellow in color and friable. Moreover, the results showed that basal part of leaf explant cultured on the same medium with 3 mg/L dicamba for 30 days gave the highest of callus induction at 20.00 percent and the lowest of browning at 93.30 percent. Whereas callus obtained from mature seeds transferred to the same medium with 2 mg/L glycine gave the best result of size of callus at 13.68 mm2 and browning of callus was not found. Upon transferring shoot or shoot clump from callus to culture in OPCM liquid with 1 mg/L 6- Benzyladenine (BA) and 0.5 mg/L 1-Naphthaleneacetic acid (NAA) for 30 days average number of shoots at 16.25 shoots, leaf length at 17.10 cm, number of roots at 92.50 roots and root length at 8.18 cm were obtained, significantly different (p≤0.01) with the another concentrations of BA and NAA. After acclimatization in field conditions for 150 days, the complete plantlets obtained from 1.5 mg/L BA gave the suitable results in average plant height at 167.40 cm, number of plants/pot at 16.50 plants, number of panicles at 16.50 panicles, panicle length at 23.50 cm, paddy length at 9.76 mm, paddy width at 2.50 mm, husked rice length at 7.20 mm, husked rice width at 2.00 mm, 100 grains weight at 1.64 g, number of seeds/hill at 1128.00 seeds and aborted or empty seeds at 67.93 percent.en_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์en_US
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Thailand*
dc.rights.urihttp://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/3.0/th/*
dc.subjectแคลลัส (พฤกษศาสตร์)en_US
dc.subjectข้าว พัทลุง พันธุ์สังข์หยดen_US
dc.subjectการเจริญเติบโตของพืชen_US
dc.titleผลของสารควบคุมการเจริญเติบโตและกรดอะมิโนต่อการชักนำแคลลัสและการสร้างยอดรวมจากการเพาะเลี้ยงปลายยอดของข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงen_US
dc.title.alternativeEffects of Plant Growth Regulators and Amino Acids on Callus Inductionand Multiple Shoot Formation from Shoot Apexof Sang Yod Muang Phatthalung Riceen_US
dc.typeThesisen_US
dc.contributor.departmentFaculty of Natural Resources (Plant Science)-
dc.contributor.departmentคณะทรัพยากรธรรมชาติ ภาควิชาพืชศาสตร์-
dc.description.abstract-thศึกษาผลของสารควบคุมการเจริญเติบโต กรดอะมิโน ชิ้นส่วนเมล็ด และชิ้นส่วนใบต่อการงอก การสร้างแคลลัส การพัฒนาเป็นพืชต้นใหม่ ตลอดจนการอนุบาลออกปลูกของข้าวสังข์หยด เมืองพัทลุง โดยเพาะเลี้ยงบนอาหารสูตร oil palm culture medium (OPCM) ไม่เติมหรือเติม dichlorophenoxyacetic acid (2, 4-D) หรือ 3,6-dichloro-2-methoxybenzoic-acid (dicamba) ความ เข้มข้นต่าง ๆ พบว่า ชิ้นส่วนของคัพภะแก่ ประกอบด้วย เอ็นโดสเปิร์มร่วมกับเอ็มบริโอบนอาหาร เติม 2,4-D เข้มข้น 4 มิลลิกรัมต่อลิตร หลังจากการเพาะเลี้ยงเป็นเวลา 7 วัน ให้อัตราการงอกสูงสุด 84-96 เปอร์เซ็นต์ เวลาที่ใช้ในการงอกน้อยสุด 4.59-4.72 วัน หลังจากการเพาะเลี้ยงเป็นเวลา 30 วัน ให้อัตราการเกิดแคลลัสสูงสุด 88.00-00.00 เปอร์เซ็นต์ และขนาดของแคลลัสสูงสุด 24.65-28.80 ตารางมิลลิเมตร แตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสําคัญ (p<0.01) กับสิ่งทดลองอื่น ๆ แคลลัสที่ได้มีสี เหลืองอ่อน เกาะกันหลวมๆ นอกจากนี้ พบว่า ชิ้นส่วน โคนใบ บนอาหารเติม Dicamba เข้มข้น 3 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็นเวลา 30 วัน ให้อัตราการเกิดแคลลัสสูงสุด 20 เปอร์เซ็นต์ และเกิดสีน้ําตาล น้อยสุด 93.30 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นมีการย้ายแคลลัสที่ได้จากคัพภะแก่มาเลี้ยงบนอาหารสูตรเดิม เติม Glycine เข้มข้น 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้ขนาดแคลลัสเพิ่มขึ้นดีสุด 13.68 ตารางมิลลิเมตร และ แคลลัส ไม่เกิดสีน้ําตาล เมื่อย้ายยอดหรือกลุ่มยอดที่เกิดร่วมกับแคลลัสมาเลี้ยงในอาหารเหลวสูตรเดิมเติม 6-Benzyladenine (BA) เข้มข้น 1 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับ 1-Naphthaleneacetic acid (NAA) เข้มข้น 0.5 มิลลิกรัมต่อลิตร เป็นเวลา 30 วัน ให้จํานวนยอดเฉลี่ยสูงสุด 16.25 ยอด ความยาวใบ เฉลี่ยสูงสุด 17.10 เซนติเมตร จํานวนรากเฉลี่ยสูงสุด 92.50 ราก ความยาวรากเฉลี่ยสูงสุด 8.18 เซนติเมตร แตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสําคัญ (p<0.01) กับ BA และ NAA ความเข้มข้นอื่น เมื่อ อนุบาลพืชต้นใหม่ที่ได้จาก BA เข้มข้น 1.5 มิลลิกรัมต่อลิตร ในสภาพแปลงทดลองที่ระยะเวลา 150 วัน ให้ความสูงต้นเฉลี่ย 167.40 เซนติเมตร จํานวนต้นเฉลี่ย 16.50 ต้นต่อกอ จํานวนรวงเฉลี่ย 16.50 รวง ความยาวรวงเฉลี่ย 23.50 เซนติเมตร ความยาวข้าวเปลือกเฉลี่ย 9.76 มิลลิเมตร ความกว้าง ข้าวเปลือกเฉลี่ย 2.25 มิลลิเมตร ความยาวข้าวกล้อง เฉลี่ย 7.20 มิลลิเมตร ความกว้างข้าวกล้องเฉลี่ย 2.00 มิลลิเมตร น้ําหนักเฉลี่ย 100 เมล็ด 1.64 กรัม จํานวนเมล็ดต่อกอเฉลี่ย 1128.00 เมล็ด เมล็ดลีบ เฉลีย 67.93 เปอร์เซ็นต์en_US
Appears in Collections:510 Thesis

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
437682.pdf1.86 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons