Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/19429
Full metadata record
DC Field | Value | Language |
---|---|---|
dc.contributor.advisor | ซัมซู สาอุ | - |
dc.contributor.author | อะธิตา รุ่งโรจน์ | - |
dc.date.accessioned | 2024-06-04T06:51:54Z | - |
dc.date.available | 2024-06-04T06:51:54Z | - |
dc.date.issued | 2023 | - |
dc.identifier.uri | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/19429 | - |
dc.description | ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (การบริหารและการจัดการการศึกษาอิสลาม), 2566 | en_US |
dc.description.abstract | This research aims to achieve the following objectives: 1) Investigate the marketing strategies employed by private Islamic and Arabic schools. 2) Examine the decision factors that influence parents when choosing to enroll their children in private Islamic and Arabic schools. 3) Provide recommendations for aligning school marketing strategies with parental decisions regarding their children's education. Qualitative research methods were utilized for data collection. The study involved key informants, including an administrator, a deputy school director, three teachers responsible for marketing strategies, ten parents of current students, and ten parents of alumni, totaling 25 individuals who were selected purposively. Data was collected through semi-structured interviews and analyzed using content analysis. Data validity was ensured through triangulation. The research findings are as follows: 1) Marketing strategies in private Islamic and Arabic schools in Bangkok Province align with the 7Ps concept framework, emphasizing curriculum strategy (Product), educational location strategy (Place), communication strategy, public relations, and media strategy (Promotion and Media), identity establishment strategy (Positioning), and teaching and learning process strategy (Process). No specific strategies were identified for education fees (Price) and personnel strategies (People). 2) Parental decision factors for enrolling their children in private Islamic and Arabic schools encompass six elements: infrastructure, curriculum, personnel, school reputation, facilities and services, and academic performance. And 3) The key recommendation pertains to personnel strategy, focusing on factors influencing parents' choices, particularly in terms of public relations efforts related to school personnel. Consequently, the research suggests adopting a marketing approach that harmonizes with parental decision factors, known as the 6C's: Curriculum, Content, Characteristics, Community, Competitiveness, and Competence. | en_US |
dc.language.iso | th | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ | en_US |
dc.rights | Attribution-NonCommercial-NoDerivs 3.0 Thailand | * |
dc.rights.uri | http://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/3.0/th/ | * |
dc.subject | กลยุทธ์การตลาด | en_US |
dc.subject | ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้ปกครอง | en_US |
dc.subject | โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาและภาษาอาหรับ | en_US |
dc.subject | กรุงเทพมหานคร | en_US |
dc.subject | Marketing strategy | en_US |
dc.subject | Parental decision factor | en_US |
dc.subject | Private religious and Arabic language school, Bangkok | en_US |
dc.title | กลยุทธ์การตลาดและปัจจัยการตัดสินใจของผู้ปกครองในการเลือกส่งบุตรหลานเข้าศึกษาในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและภาษาอาหรับ : กรณีศึกษาจังหวัดกรุงเทพมหานคร | en_US |
dc.title.alternative | Marketing Strategies and Parental Decision Factors in Selecting Private Islamic and Arabic Schools for their Children : A Case Study in Bangkok Province | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.contributor.department | Faculty of Islamic Sciences | - |
dc.contributor.department | คณะวิทยาการอิสลาม | - |
dc.description.abstract-th | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษากลยุทธ์การตลาดของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและภาษาอาหรับ 2) เพื่อศึกษาปัจจัยการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษาต่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และภาษาอาหรับ และ3) เพื่อนำเสนอแนวทางการปรับ กลยุทธ์การตลาดของโรงเรียนให้สอดคล้องการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนดังกล่าว การวิจัยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญ ได้แก่ ผู้บริหารจำนวน 1 คน รองผู้อำนวยการโรงเรียน 1 คน คณะครูที่ทำงานเกี่ยวกับการจัดกลยุทธ์การตลาด 3 คน ผู้ปกครองนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่จำนวน 10 คน และผู้ปกครองของศิษย์เก่าจำนวน 10 คน รวมทั้งสิ้น 25 คน ที่ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ กึ่งโครงสร้าง วิเคราะห์ผลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ตรวจสอบข้อมูลด้วยวิธีการสามเส้า ผลการวิจัยพบว่า 1) กลยุทธ์การตลาดของโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม และภาษาอาหรับแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกรุงเทพ จากกรอบแนวคิด 7Ps กลยุทธ์ที่ทางโรงเรียนเลือกใช้จากกรอบแนวคิดข้างต้น พบว่า มีการเลือกใช้กลยุทธ์ 5Ps คือ กลยุทธ์ด้านหลักสูตร (Product) กลยุทธ์ด้านที่ตั้งสถานศึกษา (Place) กลยุทธ์ด้านการสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ (Promotion and Media) กลยุทธ์ด้านการวางเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโรงเรียน (Positioning) กลยุทธ์ด้านกระบวนการจัดการเรียนการสอน (Process) และไม่พบกลยุทธ์ ค่าธรรมเนียมการศึกษา (Price) และกลยุทธ์ด้านบุคลากร (People) 2) ปัจจัยปัจจัยการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษาต่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและภาษาอาหรับแห่งหนึ่งในจังหวัดกรุงเทพ ประกอบด้วย 6 ปัจจัย คือ ปัจจัยด้านอาคารสถานที่ และการจัดสภาพแวดล้อม ปัจจัยด้านหลักสูตร ปัจจัยด้านบุคลากร ปัจจัยด้านชื่อเสียงโรงเรียน ปัจจัยด้านสิ่งอำนวยความสะดวก และการบริการ และปัจจัยด้านผลสัมฤทธิ์ในการเรียน และ 3) ข้อเสนอแนะแนวทางการปรับกลยุทธ์การตลาด คือ การเพิ่มกลยุทธ์ด้านบุคลากร โดยการประชาสัมพันธ์ ผลงานของบุคลากรของโรงเรียนสู่สาธารณะให้มากขึ้น โดยสามารถนำเสนอ กลยุทธ์การตลาดที่สอดรับกับปัจจัยการตัดสินใจของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษา ต่อโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามและภาษาอาหรับ คือ 6C ได้แก่ ปัจจัยหลักสูตร (Curriculum) เนื้อหาการสอน (Content) การสร้างคุณลักษณะของผู้เรียน (Characteristics) การเสริมสร้างการใช้ชีวิตตามวิถีอิสลาม (Community) การแข่งขันศึกษาต่อและการชิงทุน (Competitiveness) และความสามารถของบุคลากร (Competence) | en_US |
Appears in Collections: | 761 Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
6520420107.pdf | 1.79 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License