Please use this identifier to cite or link to this item: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17432
Title: ศักยภาพของคุฏบะฮฺวันศุกร์เพื่อพัฒนาสังคม กรณีศึกษาคุฏบะฮฺวันศุกร์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้
Other Titles: Potential of Friday Khutbah for Social Development Case Study of Friday Khutbah in Southern Border Provinces
Authors: มูหะมัด คอยา
Faculty of Islamic Sciences
คณะวิทยาการอิสลาม
Keywords: อิสลามศึกษา;ศาสนาอิสลาม
Issue Date: 2018
Publisher: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความหมายและบทบัญญัติเกี่ยวกับคุฏบะฮฺศึกษาทัศนคติเกี่ยวกับการนำเสนอคุฏบะฮฺของเคาะฎีบและผู้ฟังคุฏบะฮฺวันศุกร์ และข้อเสนอแนะจาก ทั้งสองฝ่าย และศึกษาวิเคราะห์ศักยภาพของคุฏบะฮฺวันศุกร์ในการพัฒนาสังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพและปริมาณโดยอาศัยเอกสารปฐมภูมิ ทุติยภูมิ ทติยภูมิ และเก็บรวม รวมข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า 1. คุฏบะฮฺคือการแสดงปาฐกถาธรรมก่อนละหมาดวันศุกร์ มีข้อบังคับ(รุกุ่น) เงื่อนไข ประเภท ความสำคัญ บทบัญญัติและพิธีกรรมต่างๆ ทั้งก่อนนำเสนอ ขณะนำเสนอ และหลังจากการ นำเสนอ บทบัญญัติว่าด้วยการฟังคุฏบะฮฺ เนื้อหาคุฏบะฮฺเป็นส่วนหนึ่งของการดะอุวะฮฺให้ผู้ฟังได้รับความรู้ ข้อแนะนำ ขัดเกลาจิตสำนึก และข้อเสนอแนะเพื่อแก้ปัญหาของสังคม และคุฏบะฮฺวันศุกร์มีศักยภาพในการพัฒนาสังคม 2. ผลการวิเคราะห์ทัศนคติเกี่ยวกับการนำเสนอคุฏบะฮฺและข้อเสนอแนะจากผู้ฟังคุฏบะฮฺวันศุกร์พบว่าคุฏบะฮฺเป็นส่วนหนึ่งของการตะอุวะฮฺมวลชน มีผลต่อผู้ฟังเป็นอย่างยิ่งหากผู้ร่วมละหมาดฟังด้วยความตั้งใจและเคาะฎีบนำเสนอด้วยทักษะและวิธีการที่สามารถให้ผู้ฟังเข้าใจง่ายโดยเน้นเนื้อหาการยึดมั่นกับหลักคำสอนของศาสนาที่มาจากคำภีร์อัลกุรอาน อัสสุนนะฮฺ การประกอบอิบาดะฮฺ การรำลึกถึงพระองค์อัลลอฮฺ และรำลึกถึงวันแห่งการตอบแทนในอาคิเราะฮฺ 3. เนื้อหาที่ปรากฏในคุฏบะฮฺวันศุกร์เป็นความรู้และข้อมูลที่มาจากการศึกษาวิเคราะห์และสรุปผลของเคาะฎีบ ถูกเรียบเรียงในรูปแบบความเรียง โดยเน้นการให้คำแนะนำและข้อคิดเพื่อให้ผู้ฟังสามารถนำใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิตที่ถูกต้องตามหลักการศาสนาและเกิดการยำเกรงต่อพระองค์อัลลอฮฺ สู่การมีคุณธรรมจริยธรรม อันนำไปสู่การการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน 4. ผลจากการวิเคราะห์แบบสอบถามจากเคาะฎีบผู้นำเสนอคุฏบะฮฺวันศุกร์พบว่า คุฏบะฮฺมีเนื้อหาที่เป็นความรู้ผสมผสานการตักเตือน ข้อแนะนำแก่ผู้ร่วมละหมาด เคาะฎีบได้ใช้โอกาสอย่างคุ้มค่าในการนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังทั้งเรื่องโลกดุนยาและเรื่องอาคิเราะฮฺ ใช้ภาษาที่ผู้ฟังเข้าใจง่าย เรียบเรียงเนื้อหาที่สละสลวย ถึงแม้จะอ่านจากเอกสารก็ตาม แต่สามารถดึงความสนใจของผู้ฟังได้โดยเฉพาะในวาระการชุมนุมละหมาดวันศุกร์ซึ่งมีสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง 5. ผลจากการวิเคราะห์แบบสอบถามจากผู้ฟังคุฏบะฮฺวันศุกร์พบว่า ผู้ร่วมละหมาดวันศุกร์มีความหลากหลายด้านวัยวุฒิ การศึกษา อาชีพ ความเข้าใจด้านเนื้อหาและภาษา การนำเสนอ คุฏบะฮฺควรใช้ภาษาถิ่น เนื้อหาควรเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นในชุมชนและสังคมในรอบสัปดาห์ เน้น การให้ความรู้ใหม่และตักเตือนเรื่องศาสนา แทรกด้วยเรื่องการประกอบอิบาดะฮฺ การขัดเกลาจิตใจเรื่องคุณธรรมและจริยธรรม หลากหลายหัวข้อและเนื้อหา นำเสนอปัญหาและแนะนำวิธีการแก้ไขใช้เวลาระหว่าง 15-25 นาที และคุฏบะฮฺสั้นดีกว่าคุฏบะฮฺยาว 6. ศักยภาพของคุฏบะฮฺวันศุกร์เพื่อการพัฒนาสังคมขึ้นอยู่กับการนำเสนอของเคาะฎีบที่มีทักษะและความสามารถในการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟัง ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 85 ตอบว่าความรู้ที่ได้จากการฟังคุฏบะฮฺเป็นความรู้ที่เคยศึกษาและทราบจาก สื่อต่างๆ ที่มีในปัจจุบัน เคาะฎีบเพียงแค่เรียบเรียงประโยคเป็นเนื้อหาใหม่ ส่วนใหญ่เป็นเนื้อหาเก่าที่คนส่วนใหญ่เคยฟังมาหลายครั้ง แต่ยอมฟังได้เพราะถือว่าเป็นการตักเตือน เพราะเรื่องศาสนาไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องใหม่เสมอ เรื่องเก่าก็ยังคงใช้ได้หากนำมาประยุกค์ใช้ให้ถูกวิธีและปฏิบัติอย่าง ต่อเนื่อง ส่วนผู้ฟังร้อยละ 15 ตอบว่าเนื้อหาคุฏบะฮฺเป็นความรู้ใหม่ที่ยังไม่เคยฟังจากที่ใดมาก่อน จึงสนใจที่จะฟังและติดตาม
Description: วิทยานิพนธ์ (ปร.ด.(อิสลามศึกษา))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2561
URI: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17432
Appears in Collections:761 Thesis

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
TC1654.pdf4.99 MBAdobe PDFView/Open


Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.