Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17211
Title: | การบริหารจัดการอาชีพของเกษตรกรชาวสวนยางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ |
Other Titles: | Management of Occupational among among Rubber Planes in Three Southern Border Provinces |
Authors: | อาหวัง ล่านุ้ย เสาวณีย์ ชายมะ Faculty of Humanities and Social Sciences (Social Sciences) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ภาควิชาสังคมศาสตร์ |
Keywords: | สวนยาง;ยางพารา |
Issue Date: | 2019 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี |
Abstract: | The objectives of this research were 1) to analyze the professional situation of rubber farmers during the past year 2008 - 2017 in three southern border provinces and 2) to study the adaptation of farmers in career management of rubber farmers in three southern border provinces. The research found that The professional situation of rubber farmers during the past year 2008 - 2017 consists of 4 aspects,, namely: 1) Planning, Plan to grow as a monoculture from increased rubber demand and planning multiple cropping in the rubber plantation 2) Compliance with the plan, there was more rubber plantation, but when the price decreases, planting begins to decrease. 3) inspection, the rubber plantation area began to decrease, cutting down rubber and care for more quality of the rubber plantation. and 4) • Improvements, use of space to benefit and grow other plants, also current impact conditions of rubber farmers occupation. Quantitative data showed that overall opinion level of rubber fund cooperatives at a low level (4 2.78), opinions at a moderate level, that was opinions on technology (X - 2.78), while the opinions at a low level, that was social opinions (X - 2.59), political opinions (X = 2.53), and economic opinions (X = 2.49) respectively. Qualitative data showed that 1) the political aspect, the result of the government change policy and the disadvantage in potential 2) the economy aspect, has changed and tried to reduce the area of planting 3) the social aspect, the impact of the economy has caused problems affecting the quality of life and labor began to decline and 4) technology aspect, use technology in traditional production systems. And the results of the study, the farmers adaptation in career management of rubber farmers consists of 4 aspects : namely; 1) Marketing, required to learn more about marketing principles. 2) Cost reduction, Reduce production costs, Reduce labor costs and intercropping. 3) Occupational supplementation, give importance and interest in intercropping, fishing and ranch, and 4) changes aspect, only some farmers changed their careers, but there were some that still continue to do the same profession |
Abstract(Thai): | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทางอาชีพของเกษตรกรขาวสวนยางระหว่างปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2551 - 2560 ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 2) เพื่อศึกษาการปรับตัวของเกษตรกรในการบริหารจัดการอาชีพชาวสวนยางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ผลการวิจัยพบว่า สถานการณ์ทางอาชีพของเกษตรกรชาวสวนยางพาราระหว่างปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2551 - 2560 ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการวางแผน วางแผนการปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยวจากความต้องการยางพาราเพิ่มขึ้นและการวางแผนปลูกพืชแซมในสวนยางพารา 2) ด้านการปฏิบัติตามแผน มีการปลูกยางพารามากขึ้น แต่เมื่อราคาลดลงการปลูกเริ่มลดลง 3) ด้านการตรวจสอบ พื้นที่ปลูกยางพาราเริ่มลดน้อยลง มีการโค่นยางพาราและมีความใส่ใจดูแลสวนยางพาราให้มีคุณภาพมาก ขึ้น และ4) ด้านการปรับปรุงแก้ไข การใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์และปลูกพืชชนิดอื่น อีกทั้งเงื่อนไขผลกระทบในปัจจุบันของอาชีพเกษตรกรชาวสวนยางพารา ข้อมูลเชิงปริมาณพบว่า ระดับความ คิดเห็นของสมาชิกสหกรณ์กองทุนสวนยางพาราโดยภาพรวม อยู่ในระดับน้อย (X = 2.78) ได้แก่ความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ ความคิดเห็นทางด้านเทคโนโลยี (X = 2.78) ส่วนความคิดเห็นอยู่ในระดับน้อย ได้แก่ ความคิดเห็นทางด้านสังคม (X = 2.59) ควริมคิดเห็นทางด้านการเมือง (X = 2.53) และความคิดเห็นทางด้านการเศรษฐกิจ (X = 2.49) ตามลำดับ ข้อมูลเชิงคุณภาพพบว่า 1) ด้านการเมือง ผลมาจากนโยบายที่เปลี่ยนไปของรัฐบาลและความเสียเปรียบในเรื่องศักยภาพ 2) ด้านเศรษฐกิจ มีความเปลี่ยนแปลงไปและพยายามลดพื้นที่ในการปลูก 3) ด้านสังคม ผลกระทบจากเศรษฐกิจทำให้เกิดปัญหากระทบด้านคุณภาพชีวิตและแรงงานเริ่มลดลง และ4) ด้านเทคโนโลยีใช้เทคโนโลยีในระบบการผลิตแบบดั้งเดิม และผลการศึกษาการปรับตัวของเกษตรกรในการบริหาร จัดการอาชีพชาวสวนยาง ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการตลาด ต้องมีการเรียนรู้หลักการตลาดเพิ่มขึ้น 2) ด้านการลดต้นทุน ลดต้นทุนการผลิต ลดต้นทุนแรงงานและการปลูกพืชแซม 3) ด้านการมีอาชีพเสริม ให้ความสำคัญและสนใจในการปลูกพืชแชม และทำประมงเลี้ยงสัตว์ และ4) ด้านการเปลี่ยนแปลง เกษตรกรมีเพียงบางส่วนที่ปรับเปลี่ยนอาชีพ แต่มีบางส่วนที่ยังคงประกอบอาชีพเดิม คำ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ทางอาชีพของเกษตรกรขาวสวนยางระหว่างปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2551 - 2560 ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 2) เพื่อศึกษาการปรับตัวของเกษตรกรในการบริหารจัดการอาชีพชาวสวนยางในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ผลการวิจัยพบว่า สถานการณ์ทางอาชีพของเกษตรกรชาวสวนยางพาราระหว่างปีที่ผ่านมา พ.ศ. 2551 - 2560 ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการวางแผน วางแผนการปลูกเป็นพืชเชิงเดี่ยวจากความต้องการยางพาราเพิ่มขึ้นและการวางแผนปลูกพืชแซมในสวนยางพารา 2) ด้านการปฏิบัติตามแผน มีการปลูกยางพารามากขึ้น แต่เมื่อราคาลดลงการปลูกเริ่มลดลง 3) ด้านการตรวจสอบ พื้นที่ปลูกยางพาราเริ่มลดน้อยลง มีการโค่นยางพาราและมีความใส่ใจดูแลสวนยางพาราให้มีคุณภาพมาก ขึ้น และ4) ด้านการปรับปรุงแก้ไข การใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์และปลูกพืชชนิดอื่น อีกทั้งเงื่อนไขผลกระทบในปัจจุบันของอาชีพเกษตรกรชาวสวนยางพารา ข้อมูลเชิงปริมาณพบว่า ระดับความ คิดเห็นของสมาชิกสหกรณ์กองทุนสวนยางพาราโดยภาพรวม อยู่ในระดับน้อย (X = 2.78) ได้แก่ความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง ได้แก่ ความคิดเห็นทางด้านเทคโนโลยี (X = 2.78) ส่วนความคิดเห็นอยู่ในระดับน้อย ได้แก่ ความคิดเห็นทางด้านสังคม (X = 2.59) ควริมคิดเห็นทางด้านการเมือง (X = 2.53) และความคิดเห็นทางด้านการเศรษฐกิจ (X = 2.49) ตามลำดับ ข้อมูลเชิงคุณภาพพบว่า 1) ด้านการเมือง ผลมาจากนโยบายที่เปลี่ยนไปของรัฐบาลและความเสียเปรียบในเรื่องศักยภาพ 2) ด้านเศรษฐกิจ มีความเปลี่ยนแปลงไปและพยายามลดพื้นที่ในการปลูก 3) ด้านสังคม ผลกระทบจากเศรษฐกิจทำให้เกิดปัญหากระทบด้านคุณภาพชีวิตและแรงงานเริ่มลดลง และ4) ด้านเทคโนโลยีใช้เทคโนโลยีในระบบการผลิตแบบดั้งเดิม และผลการศึกษาการปรับตัวของเกษตรกรในการบริหาร จัดการอาชีพชาวสวนยาง ประกอบด้วย 4 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านการตลาด ต้องมีการเรียนรู้หลักการตลาดเพิ่มขึ้น 2) ด้านการลดต้นทุน ลดต้นทุนการผลิต ลดต้นทุนแรงงานและการปลูกพืชแซม 3) ด้านการมีอาชีพเสริม ให้ความสำคัญและสนใจในการปลูกพืชแชม และทำประมงเลี้ยงสัตว์ และ4) ด้านการเปลี่ยนแปลง เกษตรกรมีเพียงบางส่วนที่ปรับเปลี่ยนอาชีพ แต่มีบางส่วนที่ยังคงประกอบอาชีพเดิม |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม.(การบริหารการพัฒนาสังคม))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2562 |
URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/17211 |
Appears in Collections: | 427 Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
TC16419.pdf | 2.61 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.