กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13044
ชื่อเรื่อง: แนวทางการลดความเครียดในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นครศรีธรรมราช
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Guideline for Reduction of Security Staffs 's stress in work : A case study of Walailak University, Nakhon Si Thammarat
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: องุ่น สังขพงศ์
รัตนา จันทร์นาม
Faculty of Engineering (Industrial Engineering)
คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ
คำสำคัญ: ความเครียดในการทำงาน;การบริหารความเครียด;เจ้าหน้าที่ การปฏิบัติงาน
วันที่เผยแพร่: 2020
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
บทคัดย่อ: A cross-sectional study was applied to analyze the factors that affect to the stress and recommendation the guidance to control the stress of security staffs during working hour in Walailak University, Nakhon Si Thammarat. A total amount of security staffs is 90 (100%) involved in this study. The modification statistic model from Suanprung Stress Test 20 (SPST-20) was used to collect the personal factors and working environment factors that may affect to the stress. This modification model uses the describe quantitative statistic, percentage and frequency and inferential statistics, T-test and F-test to analyze stress level. The results exhibited that the stress level of the security staffs is in normal level (non-stress), mild stress and moderate stress with the total amount of 42.2%, 16.7% and 2.2% respectively. It found that gender and work experience affect to the stress significantly (a= 0.05). Moreover, working environment is leading to different stress level (a= 0.05). From the analysis indicated that the factors that most put out the stress are working environment which is sound, heat, light and workplace (sentry box). To increase work efficiency of security staffs, the following factors must be adjusted which are the luminance, sentry chair and other involved equipment. Thus, the stress will be decrease.
Abstract(Thai): งานวิจัยเชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวางนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลกระทบ ต่อความเครียดในการทำงาน และเสนอแนะวิธีการจักการความเครียดของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยการสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำนวน 90 คน (100%) เกี่ยวกับข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคลและปัจจัยสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยใช้แบบสอบถามที่ดัดแปลงมาจากแบบวัดความเครียดสวนปรุง (SPST-20) จากนั้น วิเคราะห์ระดับความเครียด และเปรียบเทียบโดยวิธี T-test และ F-test ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปทางสถิติ ข้อมูลบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนใหญ่ มีระดับความเครียดปกติหรือไม่เครียด ร้อยละ 42.2 ความเครียดสูงกว่าปกติเล็กน้อย ร้อยละ 16.7 และความเครียดปานกลาง ร้อยละ 2.2 ตามลำดับ ส่วนปัจจัยส่วนบุคคล่งชี้ว่า เพศและประสบการณ์ทำงานที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่มีความเครียดต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (Q= 0.05) นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมการทำงานที่แตกต่างกัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่มีความเครียดต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ (Q = 0.05) ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยสภาพแวดล้อมการทำงานที่ก่อให้เกิดความเครียดมากที่สุด คือ เสียงดัง ความร้อน แสงสว่างขนาดตู้ยามหรือโต๊ะยาม อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้กับงาน และเก้าอี้นั่งยามในสถานที่ทำงาน ดังนั้นเพื่อเป็นการลดความเครียดของผู้ปฏิบัติงาน จึงได้เสนอให้มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ทำการพัฒนาปรับปรุง ลักษณะงาน และสิ่งแวดล้อมให้มีความเหมาะสม ดังต่อไปนี้ ความสว่าง เก้าอี้ยามและ อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ในสถานที่ทำงาน เพื่อส่งผลให้การทำงานของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เนื่องจากความเครียดที่ลดลง
รายละเอียด: วิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการอุตสาหกรรม), 2563
URI: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/13044
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:228 Minor Thesis

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
6210121006.pdf7.7 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น