Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/12496
Title: | ผลการเติมกลีเซอรีนดิบในอาหารข้น และการตอนต่อการกินได้ การย่อยได้ สมรรถภาพการเจริญเติบโต ลักษณะซากและผลตอบแทนจากการเลี้ยงแพะเพศผู้ |
Other Titles: | Effects adding crude glycerin in concentrate and castration on food intake, digestibility, growth performance, carcass characteristics and production return of raising male goats |
Authors: | ไชยวรรณ วัฒนจันทร์ ศุภกร สีเมือง Faculty of Natural Resources (Animal science) คณะทรัพยากรธรรมชาติ ภาควิชาสัตวศาสตร์ |
Keywords: | แพะ อาหาร;แพะ การเจริญเติบโต |
Issue Date: | 2017 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
Abstract: | The objectives of this study were to investigate the effect of adding crude glycerin (CG) and castration on feed intake, digestibility, growth performance, carcass characteristics, and production return of 50%Thai native x 50% Anglo-Nubian (TA x AN) goats. Total of 20 male goats, 11-13 months of age with 25.16±1.99 kg initial live weight, were assigned to 2x2 factorial arrangement in a Completely Randomized Design (CRD). This study consisted of two factors. Factor A assigned for 2 types of adding crude glycerin (control diet and diet supplemented with 10% of crude glycerin), and factor B assigned for castration (intact male and castrated male). During 90 days of the study, goats were intensively raised in individual pens while fresh Atratum grass (Paspalum atratum) and water were ad libitum fed, and 2% of concentrate diet was daily provided. At the end of the experimental period, 3 goats from each treatment combination were randomly sampled for carcass characteristics determination. From the study, there was no significant interaction (P>0.05) between adding crude glycerin and castration on digestion coefficient, digestible nutrient, live weight gain, feed conversion ratio weight, and carcass percentage. Goats fed diet supplemented with 10% CG had a higher total feed intake (TFI) (g DM/h/d), organic matter intake (OMI) (g DM/h/d), crude protein intake (CPI) (g DM/kg BW. 75/h/d), neutral detergent fiber (NDF), acid detergent fiber (ADF) intake (g DM/kg BW. 75/h/d), and metabolizable energy than those fed the control diet (P<0.05). However, there was no significant between goats fed with different adding crude glycerin on nutrient digestion coefficient (P>0.05). Moreover, live weight gain, feed conversion ratio, slaughter weight, hot carcass weight, chilled carcass weight of the goat fed diet supplemented with 10% CG were better than those fed control diet (P<0.05). However, they had more abdominal fat percentage and carcass fat percentage than goat fed control diet (P<0.05). In addition, goat fed supplemented diet with 10% CG gain more production return than those fed control diet. In terms of castration effect, castrated goats had better TFI, OMI, CPI, NDF, ADF, live weight gain, feed efficiency, slaughter weight (P<0.05), but more abdominal fat percentage and carcass fat percentage could be observed in the castrated group (P<0.05). Neither intact males difference nor castrated goats had influenced on the apparent nutrient digestion coefficient (P>0.05). Considering the production return, castrated goats had better return than the intact males. From the results, it could be concluded that goats fed diet with adding crude glycerin and castration could lead to better feed intake, digestibility, growth performance, carcass characteristics, and production return than the intact male goats fed with the control diet. However, higher fat content in the abdominal part were indicated in castrated group fed with 10% CG addition. |
Abstract(Thai): | การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของการเติมกลีเซอรีนดิบในปริมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ลงในสูตรอาหารข้น และผลของการตอนต่อปริมาณการกินได้ การย่อยได้ของโภชนะ สมรรถภาพการเจริญเติบโต และลักษณะซาก รวมทั้งผลตอบแทนที่ได้รับจากการเลี้ยงแพะลูกผสม พื้นเมืองไทย-แองโกลนูเบียน 50 เปอร์เซ็นต์ โดยใช้แพะเพศผู้ อายุประมาณ 11-13 เดือน น้ําหนักเฉลี่ยเริ่มต้น 25.16±1.99 กิโลกรัม จํานวนทั้งหมด 20 ตัว เป็นสัตว์ทดลอง สุ่มแบ่งแพะ เข้าศึกษาแบบ 2×2 แฟคทอเรียล ตามแผนการทดลองสุ่มสมบูรณ์ (2×2 Factorial in Completely Randomized Design) กําหนดให้ปัจจัยที่ 1 คือ การเติมกลีเซอรีนดิบ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 สูตร คือ อาหารข้นสูตรไม่เติมกลีเซอรีนดิบ และอาหารข้นสูตรเติมกลีเซอรีนดิบ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปัจจัยที่ 2 คือ การตอน ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ แพะ ไม่ตอน และแพะตอน ทั้งนี้แพะทุกตัวได้รับ หญ้าอะตราตั้ม (Paspalum atratum) เป็นอาหารหยาบหลัก โดยให้กินแบบเต็มที่ และให้อาหารข้น ในปริมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของน้ําหนักตัว การศึกษาครั้งนี้ใช้เวลา 90 วัน โดยระหว่างการศึกษาบันทึก ปริมาณการกินได้ของอาหาร การเปลี่ยนแปลงของน้ําหนักตัว คํานวณหาการย่อยได้ของโภชนะ อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ําหนักตัว และคํานวณหาต้นทุนการเลี้ยง เมื่อครบกําหนดระยะเวลา ที่ศึกษาสุ่มแพะจํานวน 3 ตัวต่อทรีทเมนต์คอมบิเนชั่น เพื่อศึกษาลักษณะของซาก การศึกษาครั้งนี้ ไม่พบอิทธิพลร่วมระหว่างอิทธิพลของการเติมกลีเซอรีนดิบกับ อิทธิพลของการตอนต่อสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของโภชนะ ปริมาณโภชนะที่ย่อยได้ น้ําหนักที่เพิ่ม อัตราการเจริญเติบโต น้ําหนักและเปอร์เซ็นต์ซาก (P>0.05) จากการศึกษาผลของการเติมกลีเซอรีนดิบ พบว่า แพะที่ได้รับอาหารข้นสูตร เติมกลีเซอรีนดิบ 10 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณการกินได้ของอาหาร (กรัมวัตถุแห้งต่อตัวต่อวัน) ปริมาณการกินได้ของอินทรียวัตถุรวม (กรัมวัตถุแห้งต่อตัวต่อวัน) ปริมาณการกินได้ของ โปรตีนรวม (กรัมวัตถุแห้งต่อกิโลกรัมน้ําหนักเมแทบอลิกต่อตัวต่อวัน) ปริมาณการกินได้ของ ผนังเซลล์ และลิกโนเซลลูโลสที่ (กรัมวัตถุแห้งต่อกิโลกรัมน้ําหนักเมแทบอลิกต่อตัวต่อวัน) สูงกว่า แพะที่ได้รับอาหารข้นสูตรไม่เต็มกลีเซอรีนดิบ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (P<0.05) นอกจากนี้แพะ ที่ได้รับอาหารข้นสูตรที่เติมกลีเซอรีนดิบยังได้รับพลังงานที่ใช้ประโยชน์ได้ต่อวัน มากกว่าแพะ กลุ่มที่ได้รับอาหารข้นสูตรไม่เติมกลีเซอรีนดิบ (P<0.05) แต่ความแตกต่างของการเติมกลีเซอรีนดิบ ไม่มีผลต่อค่าสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของโภชนะ (P>0.05) ขณะที่แพะกลุ่มที่ได้รับอาหารข้น สูตรเติมกลีเซอรีนดิบ มีน้ําหนักตัวเพิ่ม อัตราการเจริญเติบโต น้ําหนักสุดท้ายเมื่อนําไปฆ่า น้ําหนักซากอุ่น และน้ําหนักซากเย็น มากกว่าแพะกลุ่มที่ได้รับอาหารข้นสูตร ไม่เติมกลีเซอรีนดิบ (P<0.05) อย่างไรก็ตาม พบว่า แพะที่ได้รับอาหารข้นสูตรเติมกลีเซอรีนดิบ มีเปอร์เซ็นต์ไขมันใน ช่องท้อง เปอร์เซ็นต์ไขมันในซากมากกว่า และเมื่อคํานวณผลตอบแทนจากการเลี้ยง พบว่า แพะที่ ได้รับอาหารข้นสูตรเติมกลีเซอรีนดิบ 10 เปอร์เซ็นต์ มีผลตอบแทนมากกว่าแพะที่ได้รับอาหารข้น สูตร ไม่เติมกลีเซอรีนดิบ เมื่อพิจารณาถึงผลของการตอนต่อปริมาณการกินได้และการย่อยได้ของโภชนะ สมรรถภาพการเจริญเติบโต และลักษณะซาก พบว่า แพะตอนมีปริมาณการกินได้ของอาหารรวม (กรัมวัตถุแห้งต่อตัวต่อวัน) ปริมาณการกินได้ของอินทรียวัตถุรวม (กรัมวัตถุแห้งต่อตัวต่อวัน) ปริมาณการกินได้ของโปรตีนรวม (กรัมวัตถุแห้งต่อกิโลกรัมน้ําหนักเมแทบอลิกต่อ ตัวต่อวัน) ปริมาณการกินได้ของผนังเซลล์ และลิกโนเซลลูโลส (กรัมวัตถุแห้งต่อกิโลกรัม น้ําหนักเมแทบอลิกต่อตัวต่อวัน) มากกว่าแพะไม่ตอน (P<0.05) รวมทั้งมีน้ําหนักตัวเพิ่ม อัตราการเจริญเติบโต และน้ําหนักตัวสุดท้ายเมื่อนําไปฆ่ามากกว่าแพะ ไม่ตอน (P<0.05) แม้ว่าแพะ ทั้งสองกลุ่มจะมีค่าสัมประสิทธิ์การย่อยได้ของโภชนะไม่แตกต่างกัน (P>0.05) ภายหลังฆ่าเมื่อ ศึกษาลักษณะของซาก พบว่า ซากแพะตอนมีเปอร์เซ็นต์ไขมันในช่องท้องและเปอร์เซ็นต์ไขมันใน ซากมากกว่า แต่มีเปอร์เซ็นต์เนื้อแดงน้อยกว่าแพะไม่ตอน (P<0.05) ทั้งนี้เมื่อศึกษาถึงผลตอบแทนที่ ได้จากการเลี้ยง พบว่า การเลี้ยงแพะตอนให้ผลตอบแทนดีกว่าการเลี้ยงแพะไม่ตอน ผลการศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่า การเติมกลีเซอรีนดิบ 10 เปอร์เซ็นต์ ในอาหารข้น และการตอน มีผลทําให้แพะมีปริมาณการกินได้ การย่อยได้ของโภชนะ สมรรถภาพการ เจริญเติบโต ลักษณะซาก และผลตอบแทนจากการเลี้ยงดีกว่าถึงแม้ว่าซากจะมีปริมาณไขมันในช่อง ท้องสูงกว่าก็ตาม |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (สัตวศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2560 |
URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/12496 |
Appears in Collections: | 515 Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
426626.pdf | 3.08 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.