Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/12053
Title: | การประยุกต์ใช้ระบบสารสานเทศภูมิศาสตร์และข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อประเมินพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดและมีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มบริเวณเทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช |
Other Titles: | Application of GIS and remote sensing for landslide hazard and risk in khaoluang mountain range in Nakhon Si Thammara Province |
Authors: | สุชาติ เชิงทอง ฟาฎีละห์ ยือโร๊ะ Faculty of Environmental Management (Environmental Management) คณะการจัดการสิ่งแวดล้อม สาขาวิชาการจัดการสิ่งแวดล้อม |
Keywords: | แผ่นดินถล่ม การประเมินความเสี่ยง นครศรีธรรมราช |
Issue Date: | 2017 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
Abstract: | Application of GIS and Remote Sensing for Lanslide and Risk in Khaoluang Mountain Range in Nakhon Si Thammarat Province. The purposes of this study are 1.) Identify hazard areas and risk areas for Khaoluang Mountain Range in Nakhon Si Thammarat. 2.) Compare the potential for landslides between the eastern part of Khaoluang Mountain in Nopphitam district and the western part in Phipoon district and 3.) Provide information and suggestions to communities in Khaoluang Mountain area in Nakhon Si Thammarat. The study method used GIS for data analysis. ArcGIS 9.2 Tools were used to overlay 7 factors including to rainfall, land use, traces, slope, contour and steam. The weighting and rating of the seven factors were determined. The results of this study can be divided into three levels of risk areas for landslides; high moderate and low. The area is 0.16 squarekilometers, 3.30 squarekilometers and 0.53 squarekilometers, respectively and accounted for 4.01, 82.70, 13.29 percent of the total area. In this study the Khaoluang Mountain Range is divided into two sides: the east and west. In the western part of Khaoluang Mountain range, there is a higher risk areas of landslides than in the east. It is located in Pippoon District and Chawang District of Khaoluang Mountain range. The most risk factors for landslides are rainfall, landuse changes, and the past traces. The study can provide sustainable resource management at the governmental level, local government and community organizations. Monitoring of risk and surveillance for landslide potential in Khaoluang Mountain Range in Nakhon Sri Thammarat is ocucial for protecting from hazard. |
Abstract(Thai): | การประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์และข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อประเมินพื้นที่ที่มี โอกาสเกิดและมีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มบริเวณเทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราชในครั้งนี้มี วัตถุประสงค์ คือ 1.) เพื่อกําหนดพื้นที่ที่มีโอกาสและพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มในพื้นที่ เทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช 2.) เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลโอกาสเกิดดินถล่มระหว่างเทือกเขา หลวงฝั่งตะวันออกในพื้นที่อําเภอนบพิตําและฝั่งตะวันตกในพื้นที่อําเภอพิปูน และ 3.) เพื่อนําข้อมูลที่ได้ จัดทําข้อเสนอแนะและแนวทางในการรับมือกับปัญหาของชุมชนต่อการเกิดดินถล่มในพื้นที่เทือกเขา หลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช วิธีการศึกษาใช้ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ โปรแกรม ArcGIS 9.2 ด้วยวิธีการซ้อนทับของปัจจัย ซึ่งกําหนดปัจจัยที่ทําให้เกิดดินถล่มทั้งหมด 7 ปัจจัยซึ่งประกอบด้วย ปริมาณน้ําฝน การใช้ประโยชน์ที่ดิน ร่องรอยการเกิดในอดีต ความลาดชันของ พื้นที่ ความสูงของพื้นที่ ลักษณะทางธรณีวิทยา และเส้นทางน้ํา โดยมีการให้ค่าถ่วงน้ําหนักของแต่ละ ปัจจัยและลําดับค่าคะแนนของปัจจัยทั้ง 7 ปัจจัย ตามลําดับ จากผลการศึกษาพื้นที่ความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม แบ่งได้ 3 ระดับ คือ พื้นที่มีความเสี่ยงต่อ การดินถล่มสูง ปานกลางและต่ํา โดยคิดเป็นพื้นที่ตามลําดับ คือ 0.16 ตารางกิโลเมตร 3.30 ตาราง กิโลเมตร และ 0.53 ตารางกิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 4.01, 82.70, 13.29 ของพื้นที่ทั้งหมด บริเวณ เทือกเขาหลวงมีการแบ่งพื้นที่เป็นสองฝั่ง คือ ด้านฝั่งตะวันออกและด้านฝั่งตะวันตก ในบริเวณเทือกเขา หลวงฝั่งตะวันตกมีพื้นที่ความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มสูงมากกว่าพื้นที่ฝั่งตะวันออก ซึ่งอยู่ในอําเภอพิปูน และอําเภอฉวางของเทือกเขาหลวงฝั่งตะวันตก ปัจจัยที่ทําให้มีความเสี่ยงการเกิดดินถล่มมากที่สุด คือ ปริมาณน้ําฝน รองลงมา คือ การเปลี่ยนแปลงการใช้กระโยชน์ที่ดินและร่องรอยการเกิดในอดีต อย่างไร ก็ตามเมื่อมีการเปรียบเทียบพื้นที่ความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดดินถล่มของเทือกเขาหลวงฝั่งตะวันออกและฝั่ง ตะวันตก ระหว่างอําเภอนบพิตํากับอําเภอพิปูน พบว่าถึงแม้อําเภอนบพิตํามีปริมาณฝนมากกว่าแต่มีป่า ไม้ที่อุดมสมบูรณ์มากกว่า ทําให้พื้นที่เสี่ยงที่การเกิดดินถล่มน้อยกว่าอําเภอพิปูน ที่มีปริมาณน้ําฝนน้อย กว่า มีปริมาณป่าไม้สมบูรณ์ลดลงและมีพื้นที่ถูกบุกรุกมากกว่า จากการศึกษาสามารถเป็นแนวทางใน การจัดการทรัพยากรในพื้นที่อย่างยั่งยืน ทั้งในระดับหน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ ชุมชน เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการกําหนดนโยบาย การติดตามความเสี่ยงและเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงการเกิด ดินถล่มบริเวณเทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช |
Description: | วิทยานิพนธ์ (วท.ม. (การจัดการสิ่งแวดล้อม))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2560 |
URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/12053 |
Appears in Collections: | 820 Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
419474.pdf | 8.04 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.