Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11939
Title: | ผลของการจัดท่าต่อปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิดก่อนกำหนด |
Other Titles: | Effect of Positioning on Gastric Residual Volume in Preterm Infants |
Authors: | บุษกร พันธ์เมธาฤทธิ์ จณัญญา โมรา Faculty of Nursing (Pediatric Nursing) คณะพยาบาลศาสตร์ ภาควิชาการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ |
Keywords: | ทารกคลอดก่อนกำหนด การดูแล;กระเพาะอาหาร |
Issue Date: | 2017 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
Abstract(Thai): | การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลอง (quasi – experimental research) มีรูปแบบ การวิจัยเป็นแบบไขว้กัน (cross – Over design) เพื่อเปรียบเทียบปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะ อาหารในทารกเกิดก่อนกําหนดที่ได้รับการจัดท่าศีรษะสูงใน ท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ํา ท่านอนคว่ํา ท่านอนตะแคงขวา และท่านอนหงาย ในหออภิบาลทารกแรกเกิด โรงพยาบาลหาดใหญ่ เลือกกลุ่ม ตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง จํานวน 63 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลของทารกเกิดก่อนกําหนด และ 2) แบบบันทึกปริมาณ นมที่ได้รับและปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิดก่อนกําหนด ได้ตรวจสอบ ความตรงตามเนื้อหาของเครื่องมือโดยผู้ทรงคุณวุฒิ จํานวน 3 ท่าน และตรวจสอบความเที่ยงของ การบันทึกปริมาณนมที่ได้รับและปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิด ก่อนกําหนด ระหว่างผู้วิจัยและผู้ช่วยวิจัย (infer rater reliability) ในทารกเกิดก่อนกําหนด จํานวน 10 ราย ได้ค่าความเที่ยงเฉลี่ยที่เห็นพ้องกัน (average agreement) เท่ากับร้อยละ 100 ผู้วิจัยได้ทําการ จัดท่าทารกเกิดก่อนกําหนดครบ 4 ท่า ตามการสุ่มท่า และเก็บรวบรวมข้อมูลโดยผู้ช่วยวิจัย ก่อนให้นม หลังให้นม 1, 2 และ 3 ชั่วโมง วิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และวิเคราะห์ความแตกต่างของร้อยละเฉลี่ย ปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในแต่ละท่านอนด้วยสถิติความแปรปรวนทางเดียว (One - way ANOVA) ทดสอบความแตกต่างของร้อยละเฉลี่ยปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะ อาหารเป็นรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ (Scheffe's test) ผลการวิจัยพบว่า 1. ร้อยละเฉลี่ยปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิดก่อนกําหนดที่ ได้รับการจัดท่าศีรษะสูงในท่านอนหงาย (ท่าพัก) ท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ํา ท่านอนคว่ํา และท่านอนตะแคงขวาก่อนให้นม พบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p > 05) 2. ร้อยละเฉลี่ยปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิดก่อนกําหนดที่ ได้รับการจัดท่าศีรษะสูงในท่านอนหงาย (ท่าพัก) ท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ําา ท่านอนคว่ํา และ ท่านอนตะแคงขวาหลังให้นม 1 ชั่วโมง มีความแตกต่างอย่างน้อย 1 คู่อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p< .001) คือมีความแตกต่างระหว่างท่านอนหงายศีรษะสูงกับท่านอนคว่ําศีรษะสูง ท่านอนหงาย ศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาถึงคว่ําศีรษะสูง และท่านอนหงายศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวา ศีรษะสูง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .05) ท่านอนคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาศีรษะสูง และท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาศีรษะสูง มีความแตกต่างกันอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติ (p < .10) ส่วนท่านอนคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาถึงคว่ําศีรษะสูง พบว่า ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p >.05) 3. ร้อยละเฉลี่ยปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิดก่อนกําหนดที่ ได้รับการจัดท่าศีรษะสูงในท่านอนหงาย (ท่าพัก) ท่านอนตะแคงขวาถึงคว่ํา ท่านอนคว่ํา และท่า นอนตะแคงขวาหลังให้นม 2 ชั่วโมง มีความแตกต่างอย่างน้อย 1 คู่อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p <,001) คือมีความแตกต่างระหว่างท่านอนหงายศีรษะสูงกับท่านอนคว่ํา ท่านอนหงายศีรษะสูง กับท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ําศีรษะสูง และท่านอนหงายศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาศีรษะสูง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p <,001) และท่านอนคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาศีรษะสูง อย่างมี นัยสําคัญทางสถิติ (p < .05) ส่วนท่านอนตะแคงขวาถึงคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาศีรษะสูง และท่านอนคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาถึงคว่ําศีรษะสูง พบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติ (p>05) 4. ร้อยละเฉลี่ยปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิดก่อนกําหนดที่ ได้รับการจัดท่าศีรษะสูงในท่านอนหงาย (ท่าพัก) ท่านอนตะแคงขวาถึงคว่ํา ท่านอนคว่ํา และ ท่านอนตะแคงขวาหลังให้นม 3 ชั่วโมง มีความแตกต่างอย่างน้อย 1 คู่อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .001) คือมีความแตกต่างระหว่างท่านอนหงายศีรษะสูงกับท่านอนคว่ํา ท่านอนหงายศีรษะสูง กับท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ําศีรษะสูง และท่านอนหงายศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาศีรษะสูง อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p < .001) ส่วนท่านอนคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาถึงคว่ําศีรษะสูง ท่านอนคว่ําศีรษะสูงกับท่านอนตะแคงขวาศีรษะสูง และท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ําศีรษะสูงกับท่า นอนตะแคงขวาศีรษะสูง พบว่าไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p>05) 5. ร้อยละเฉลี่ยปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารในทารกเกิดก่อนกําหนดที่ ได้รับการจัดท่าศีรษะสูง จากน้อยไปมาก ที่เวลา 1, 2 และ 3 ชั่วโมงหลังให้นม คือ ท่านอนตะแคง ขวา ท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ํา ท่านอนคว่ํา และท่านอนหงาย (ท่าพัก) ตามลําดับ ผลการวิจัยครั้งนี้ พยาบาลควรจัดให้ทารกเกิดก่อนกําหนดนอนในท่านอนตะแคง ขวาศีรษะสูงหลังให้นมเป็นเวลา 3 ชั่วโมง เป็นท่าแรก รองลงมา คือท่านอนตะแคงขวากึ่งคว่ําศีรษะ สูง และท่านอนคว่ําศีรษะสูงตามลําดับ เพื่อช่วยให้ปริมาณของเหลือค้างในกระเพาะอาหารลดลง |
Description: | วิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การพยาบาลเด็ก))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2559 |
URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11939 |
Appears in Collections: | 645 Thesis |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
412341.pdf | 1.11 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.