Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11732| Title: | Effect of Bone Marrow Concentrate on New Bone Formation in Rabbit Calvarial Defect |
| Other Titles: | ผลของไขกระดูกเข้มข้นต่อการสร้างกระดูกใหม่ในรอยวิการกะโหลกศีรษะกระต่าย |
| Authors: | Thongchai Nuntanaranont Kanokporn Santavalimp Faculty of Dentistry (Surgery) คณะทันตแพทยศาสตร์ ภาควิชาศัลยศาสตร์ |
| Keywords: | Bone marrow;Skull |
| Issue Date: | 2017 |
| Publisher: | Prince of Songkla University |
| Abstract: | Objective: The aim of the present study was to compare new bone regeneration in rabbit calvarial defects treated by autogenous bone, beta-tricalcium phosphate alone (B-TCP), in combination of beta-tricalcium phosphate and bone marrow aspirate concentrate (B- TCP+BMAC), and empty defect. Materials and methods: Two critical size defects were created on the calvarium of 15 male white New Zealand rabbits. The clinical evaluation and Micro-computed tomography (micro-CT) was used for evaluation of new bone regeneration at 2, 4 and 8 weeks after surgery respectively. Results: The experimental models showed good clinical biocompatibility to all groups of the materials. The highest bone formation was achieved with autogenous bone treatment, and it was higher significantly than other groups. Bone formation in B-TCP and B- TCP+BMAC groups were not significantly different, but higher than empty defect. The quantity of residual graft materials were reduced gradually and new bone formation were increase with time in both groups. Conclusion: This study showed that beta-tricalcium phosphate added with bone marrow aspirate concentrate could be one of the alternative material of choice for new bone formation in rabbit calvarial defect. |
| Abstract(Thai): | วัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของไขกระดูกเข้มข้นต่อการสร้างกระดูกใหม่ในรอยวิการ กะโหลกศีรษะกระต่าย วัสดุและอุปกรณ์ ทําการศึกษาโดยสร้างรอยวิการกะโหลกศีรษะในสัตว์ทดลองจํานวน 15 ตัว ตัวละ 2 รอย แบ่งกลุ่มการศึกษาออกเป็น 4 กลุ่มตามชนิดของวัสดุทดแทนกระดูกที่ใช้ในการ รักษารอยวิการ ได้แก่ กลุ่มที่ 1 ใช้กระดูกของกระต่ายเองเป็นวัสดุทดแทนกระดูก (AB), กลุ่มที่ 2 ใช้ สารทดแทนกระดูกสังเคราะห์ชนิดเบต้าไตรแคลเซียมฟอสเฟต (B-TCP), กลุ่มที่ 3 ใช้สารทดแทน กระดูกสังเคราะห์ชนิดเบต้าไตรแคลเซียมฟอสเฟตร่วมกับไขกระดูกเข้มข้นของกระต่าย (B- TCP+BMAC), และกลุ่มที่ 4 รอยวิการที่ไม่ใส่สารทดแทนกระดูกเลย ทําการเปรียบเทียบผล การศึกษาจากลักษณะทางคลินิก ภาพถ่ายรังสีไมโครซีที และภาพถ่ายจุลพยาธิวิทยาที่ระยะเวลา 2, 4 และ 8 สัปดาห์ภายหลังการผ่าตัด ผลการศึกษา วัสดุทดแทนกระดูกที่ใช้ในทุกกลุ่มศึกษามีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อ ร่างกายเป็นอย่างดี ผลการศึกษาจากลักษณะทางคลินิกพบว่าในทุกกลุ่มศึกษามีการหายของแผลที่ดี ไม่พบปฏิกิริยาการอักเสบหรือติดเชื้อของแผล จากผลการศึกษาภาพถ่ายรังสีไมโครซีทีและภาพถ่าย จุลพยาธิวิทยา พบว่าในกลุ่ม AB มีการสร้างกระดูกใหม่มากที่สุด และมากกว่ากลุ่มศึกษาอื่นอย่างมี นัยสําคัญทางสถิติ กลุ่ม B-TCP+BMAC มีการสร้างกระดูกมากกว่ากลุ่มที่ใช้ B-TCP เพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ แต่ปริมาณการสร้างกระดูกใหม่ในทั้งสองกลุ่มนี้มี ปริมาณมากกว่ารอยวิการที่ไม่ใส่สารทดแทนกระดูกเลย นอกจากนี้ยังพบว่าปริมาณของวัสดุ ทดแทนกระดูกชนิดเบต้าไตรแคลเซียมฟอสเฟตมีปริมาณลดลดเมื่อเวลาผ่านไปมากขึ้น ใน ขณะเดียวกันพบว่ามีปริมาณกระดูกใหม่เพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ผ่านไป สรุปผลการศึกษา การใช้ไขกระดูกเข้มข้นร่วมกับสารทดแทนกระดูกชนิดเบต้าไตร แคลเซียมฟอสเฟต เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของสารทดแทนกระดูกในการรักษารอยวิการของกะโหลก ศีรษะกระต่าย |
| Description: | Thesis (M.Sc., Oral and Maxillofacial Surgery)--Prince of Songkla University, 2017 |
| URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11732 |
| Appears in Collections: | 680 Thesis |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| 420136.pdf | 3.28 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.