กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11627
ชื่อเรื่อง: | ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Relationship between cardiac rehabilitation behaviors and quality of life among patients post coronary artery bypass graft |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | หทัยรัตน์ แสงจันทร์ อัจฉรา เข็มทอง Faculty of Nursing (Medical Nursing) คณะพยาบาลศาสตร์ ภาควิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์ |
คำสำคัญ: | หัวใจ โรค ผู้ป่วย การฟื้นฟูสมรรถภาพ;หัวใจ ศัลยกรรม ผู้ป่วย การฟื้นฟูสมรรถภาพ |
วันที่เผยแพร่: | 2017 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ |
บทคัดย่อ: | This descriptive study aimed to investigate the relationship between cardiac rehabilitation behaviors and quality of life among patients post coronary artery bypass graft (CABG). The purposive sample consisted of 40 patients with CABG surgery of a tertiary Hospital in southern of Thailand, during 4 - 6 months post-operative. The data were collected by (1) the Demographic Data and Illness History Sheet, (2) the Cardiac Rehabilitation Behaviors for Patients Post-CABG Questionnaire, and (3) the Quality of Life for Patients Post-CABG Questionnaire, which were validated by three experts. The reliability of the cardiac rehabilitation behaviors questionnaire, andthe quality of life questionnaire were examined and yielded the Cronbach's alpha coefficient of .77 and 93 respectively. The data were analyzed using descriptive statistics, Pearson Product Moment Correlation, and Spearman Rank Correlation. The results showed that the mean score of total cardiac rehabilitation behaviors of the subjects was at a high level (M= 2.19, SD = 0.41). The mean score of cardiac rehabilitation behaviors related to life modification behaviors was highest (M = 2.57, SD = 0.29) following by, stress management (Mdn =2.38, IQR = 0.94), and exercise behaviors (M = 1.75, SD = 0.83). The mean score of the quality of life of the subjects was at a high level (M = 24.00, SD = 3.30). There were significantly positive correlation between the cardiac rehabilitation behaviors and the quality of life (r = .53, p< .001), and between exercise behaviors and the quality of life (r = .37, p< .05). These findings showed that the cardiac rehabilitation behaviors, particularly exercise had significant correlation with the quality of life. Therefore the cardiac rehabilitation behaviors should focus on continuing exercise, in addition symptom management should be promote for decreasing obstacle to perform cardiac rehabilitation behaviors in order to enhance quality of life of the coronary artery disease patients. |
Abstract(Thai): | การวิจัยเชิงบรรยายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการ ฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยหลังผ่าตัดทําทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ คัดเลือกกลุ่ม ตัวอย่างแบบเจาะจง เป็นผู้ป่วยหลังผ่าตัดทําทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจที่โรงพยาบาลตติยภูมิแห่งหนึ่งใน ภาคใต้ในระยะหลังผ่าตัด 4-6 เดือน จํานวน 40 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ (1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลและประวัติการเจ็บป่วย (2) แบบสอบถามพฤติกรรมการฟื้นฟู สมรรถภาพหัวใจหลังผ่าตัดหัวใจในระยะ 4 - 6 เดือน และ 3)แบบสอบถามคุณภาพชีวิตผู้ป่วยหลัง ผ่าตัดหัวใจทําทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และหาค่าความเที่ยงด้วยสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบราคของแบบสอบถามพฤติกรรม การฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจหลังผ่าตัดหัวใจ และแบบสอบถามคุณภาพชีวิตผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ ทําทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจได้เท่ากับ 77 และ 93 ตามลําดับวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิง พรรณนาและหาความสัมพันธ์โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สันและค่าสัมประสิทธิ์ สหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน ผลการวิจัย พบว่ากลุ่มตัวอย่างมีพฤติกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจหลังผ่าตัดหัวใจ ทําทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจในระยะ 4 - 6 เดือน โดยรวมอยู่ในระดับสูง (M = 2.19, SD = 0.41) โดย มีพฤติกรรมด้านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสูงที่สุด (M = 2.57, SD = 0.29) รองลงมาคือด้านการ จัดการความเครียด (Man =2.38, IQR = 0.94) และด้านการออกกําลังกาย (M= 1.75, SD = 0.83) ตามลําดับ กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนคุณภาพชีวิตโดยรวมระดับสูง(M = 23.95, SD = 3.33) และพบว่า พฤติกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ โดยรวมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับคุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสําคัญ ทางสถิติ (r = 53, p< .001) โดยพฤติกรรมด้านการออกกําลังกายซึ่งมีความสัมพันธ์ทางบวกกับ คุณภาพชีวิตอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ(r = 37,p< .01) การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าพฤติกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจมีความสัมพันธ์ กับคุณภาพชีวิตโดยเฉพาะด้านการออกกําลังกาย ดังนั้น ควรมีแนวทางส่งเสริมการออกกําลังกาย อย่างต่อเนื่องและมีวิธีการจัดการอาการเพื่อลดอุปสรรคในการปฏิบัติพฤติกรรมการฟื้นฟูสมรรถภาพ หัวใจ อันจะส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจ |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การพยาบาลผู้ใหญ่))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2560 |
URI: | http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11627 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | 646 Thesis |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
419339.pdf | 1.45 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น