Please use this identifier to cite or link to this item: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11606
Title: ความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณและการได้รับการตอบสนองความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่เข้ารับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
Other Titles: Spiritual care Needs and Spiritual Care Received Among Patients with End Stage Renal Disease Receiving Hemodialysis
Authors: กันตพร ยอดใชย
อรญา เย็นเสมอ
Faculty of Nursing (Medical Nursing)
คณะพยาบาลศาสตร์ ภาควิชาการพยาบาลอายุรศาสตร์
Keywords: ไตวายเรื้อรัง ผู้ป่วย การดูแล;การพยาบาลด้านจิตวิญญาณ
Issue Date: 2017
Publisher: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
Abstract: The purpose of this study was to investigate the demand of patient's spiritual care needs and the spiritual care received in 97 patients with end stage renal disease (ESRD) receiving hemodialysis (HD) from five hospitals between February and March, 2017. Research instruments consisted of two parts: (1) demographic data and (2) spiritual care needs and spiritual care received scale. The content validity of all instruments were examined by three experts. The spiritual care needs and spiritual care received scale was tested for reliability with Cronbach's alpha coefficients of, .89 and .92, respectively. Data analysis was performed using percentage, mean, standard deviation, and paired t-test. The results were as follows: the mean score of spiritual care needs was at high level (X= 2.44, SD = .24). The mean score of spiritual care received was at high level (X= 2.43, SD = .22). In addition, there was no statistically significant difference between spiritual care needs and spiritual care received in patients with ESRD receiving HD (p > .05). According to the study findings, the spiritual needs of patients with ESRD receiving HD should be enhanced in order for them to live better and face their chronic illness and its treatment.
Abstract(Thai): การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณและ การได้รับการตอบสนองความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณ ในผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่ เข้ารับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จํานวน 97 ราย ในโรงพยาบาล จํานวน 5 แห่ง เก็บรวบรวมข้อมูลในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนมีนาคม พ.ศ. 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บ รวบรวมข้อมูลในครั้งนี้ประกอบด้วย 2 ส่วน ได้แก่ (1) แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล และ (2) แบบสอบถามความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณและการได้รับการตอบสนองความ ต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณ เครื่องมือได้ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และตรวจสอบความเที่ยงของแบบสอบถามความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณและการ ได้รับการตอบสนองความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณ ได้ค่าสัมประสิทธ์อัลฟาของ ครอนบราค (Cronbach's alpha coefficient) เท่ากับ .89 และ 92 ตามลําดับ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ สถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที่คู่ ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยความต้องการดูแลด้านจิตวิญญาณ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (X= 2.44, SD = 24) คะแนนเฉลี่ยการได้รับการตอบสนองความต้องการ การดูแลด้านจิตวิญญาณ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (X= 2.43, SD = 22) และคะแนนเฉลี่ยความ ต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณและคะแนนเฉลี่ยการได้รับการตอบสนองความต้องการการดูแล ด้านจิตวิญญาณไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติ (p > .05) จากผลการวิจัยครั้งนี้ผู้ป่วยไตเรื้อรังระยะสุดท้ายที่เข้ารับการฟอกเลือดด้วยเครื่อง ไตเทียมควรได้รับการส่งเสริมการได้รับการตอบสนองความต้องการการดูแลด้านจิตวิญญาณ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยการเผชิญต่อการเจ็บป่วยและการรักษา
Description: วิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การพยาบาลผู้ใหญ่))--มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 2560
URI: http://kb.psu.ac.th/psukb/handle/2016/11606
Appears in Collections:646 Thesis

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
418599.pdf2.57 MBAdobe PDFView/Open


Items in PSU Knowledge Bank are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.